ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นกขมิ้นน้อยธรรมดา"

จาก ฐานข้อมูลนกในพื้นที่ชุ่มน้ำในบางอำเภอเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี
แถว 1: แถว 1:
 
+
[[File:Aegithina tiphia01.jpg|right]]
 
'''วงศ์''' : Corvinae<br>
 
'''วงศ์''' : Corvinae<br>
 
'''ชื่อวิทยาศาสตร์''' : ''Aegithina tiphia''(Linnaeus)1758.<br>
 
'''ชื่อวิทยาศาสตร์''' : ''Aegithina tiphia''(Linnaeus)1758.<br>

รุ่นปรับปรุงเมื่อ 06:04, 29 ธันวาคม 2558

Aegithina tiphia01.jpg

วงศ์ : Corvinae
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aegithina tiphia(Linnaeus)1758.
ชื่อสามัญ : Common iora
ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ : นกขมิ้นน้อยสวน

มีชื่อวิทยาศาตร์ว่า Aegithina tiphia ยังไม่ทราบที่มาและความความของชื่อชนิด อาจมาจากคำว่า Tiphys ซึ่งเป็นกัปตันเรือ Argonauts ในนิยายกรีกโบราณที่ลงเรือไปหาขนแกะทองคำ พบครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย ทั่วโลกมี 14 ชนิดย่อย ประเทศไทยพบ 3 ชนิดย่อย คือ

  1. Aegithina tiphia philipi Oustalet ชื่อชนิดย่อยดัดแปลงมาจากชื่อของบุคคล พบครั้งแรกที่ประเทศเวียดนาม
  2. Aegithina tiphia cambodiana Hall ชื่อชนิดย่อยดัดแปลงจากชื่อสถานที่ที่พบครั้งแรก คือ ประเทศกัมพูชา และ
  3. Aegithina tiphia horizoptera Oberholser ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษากรีกคือ horiz หรือ orizo แปลว่าแนวนอนหรือกั้นเขต และ pter,-o,=um หรือ pteron แปลว่าปีกหรือขน ความหมายคือ”มีลายที่ปีก” พบครั้งแรกที่ Nias Island ประเทศอินโดนีเซีย

กระจายพันธุ์ : ในอินเดีย จีนด้านตะวันตกเฉียงใต้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะซุนดาใหญ่ และเกาะปาลาวัน

ลักษณะทั่วไป : เป็นนกขนาดเล็กมาก (15 ซม.) ตัวผู้ลำตัวด้านบนสีเขียว วงรอบเข้าตาสีเหลือง ปีกและหางสีดำ มีลายแถบสีขาวที่ปีก ลำตัวด้านล่างสีเหลือง กระหม่อมและหลังบางตัวเป็นสีดำ ตัวเมียมีสีเขียวแทนที่บริเวณสีดำในตัวผู้ ปีกด้านบนมีลายแถบสีขาว ปีกด้านล่างมีลายแถบสีเหลือง ลำตัวด้านล่างมีลายแต้มสีเขียว

อุปนิสัยและอาหาร : อาศัยอยู่ตามป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าชายเลน ป่ารุ่น ทุ่งโล่ง และสวนผลไม้ตั้งแต่พื้นราบจนกระทั้งความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล มักพบอยู่เป็นคู่ แต่อาจพบหลายคู่หากินในบริเวณเดียวกัน มักกระโดดจากกิ่งไม้หนึ่งไปยังอีกกิ่งไม้หนึ่ง บางครั้งพบเกาะทางด้านข้างหรือด้านล่างของกิ่งไม้เพื่อจิกแมลง เป็นนกที่ร้องได้หลายแบบ แต่แบบที่ได้ยินบ่อยที่สุดคือเสียงคล้ายนกหวีด “หวีด-วิด” พยางค์แรกจะยาวมาก ส่วนพยางค์หลังสั้น เสียงร้องมักได้ยินไปไกลและร้องเกือบตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูผสมพันธุ์

การผสมพันธุ์ : ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ทำรังเป็นรูปถ้วยเล็ก ๆ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6 ซม. อยู่สูงจากพื้นดิน 2-4 เมตร รังอยู่ตามง่ามหรือกิ่งของไม้พุ่มและต้นไม้ขนาดใหญ่ วัสดุที่ใช้ทำรังประกอบด้วยต้นหญ้าและกิ่งไม้เล็ก ๆ โดยเชื่อมกันด้วยใยแมงมุม อาจมีใบหญ้าใบไม้แห้งวางตรงกลางแอ่งเพื่อรองรับไข่ รังมีไข่ 2-3 ฟอง

ไข่ : ไข่สีขาวแกมชมพูจาง มีลายดอกดวงสีน้ำตาลแกมม่วง ขนาดของไข่โดยเฉลี่ย 13.5x17.5 มม. ทั้งสองเพศช่วยกันทำรัง ฟักไข่ และช่วยกันเลี้ยงดูลูกอ่อนเริ่มฟักไข่ตั้งแต่ออกไข่ฟองแรก ใช้เวลาฟักไข่ประมาณ 14 วัน ลูกนกเมื่อออกจากไข่มาใหม่ ๆ ยังไม่มีขนคลุมร่างกาย และยังช่วยเหลือตนเองไม้ได้ พ่อแม่นกจะใช้เวลาเลี้ยงลูก 9-10 วัน

สถานภาพ : เป็นนกประจำถิ่น พบบ่อยและปริมาณมาก ชนิดย่อย philipi พบทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง ชนิดย่อย cambodiana พบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคกลางบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และชนิดข่อย horizoptera พบทางภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันตก และภาคใต้

กฎหมาย : จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง