ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นกกระติ๊ดสีอิฐ"
(สร้างหน้าว่าง) |
|||
| แถว 1: | แถว 1: | ||
| + | '''วงศ์''' : Lonchura Sykes <br> | ||
| + | '''ชื่อวิทยาศาสตร์''' : ''Lonchura Malacca'' (Linnaeus) 1766.<br> | ||
| + | '''ชื่อสามัญ''' : Black-headed Munia<br> | ||
| + | '''ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ''' : นกปากตะกั่ว , Chestnut Munia<br><br> | ||
| + | |||
| + | มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ''Lonchura Malacca'' ชื่อชนิดมาจากชื่อสถานที่ที่พบครั้งแรก คือเมือง Malacca ประเทศมาเลเซีย ทั่วโลกมี 10 ชนิดย่อย ประเทศไทยพบ 2 ชนิดย่อยคือ Lonchura Malacca deignani Parkes ชื่อชนิดย่อยมาจากชื่อบุคคล พบครั้งแรกที่จังหวัดเชียงราย และ Lonchura Malacca sinensis (Blyth) ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษาละตินสมัยใหม่คือ sinens แปลว่าแห่งประเทศจีน พบครั้งแรกที่เกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย (เป็นเมืองที่คนจีนอาศัยอยู่มาก) | ||
| + | |||
| + | '''กระจายพันธุ์''' : ในอินเดีย จีนด้านตะวันตกเฉียงใต้ เกาะไหหลำ ไต้หวัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะซุนดาใหญ่ เกาะสุลาเวซี และฟิลิปปินส์ | ||
| + | |||
| + | '''ลักษณะทั่วไป''' : เป็นนกขนาดเล็ก (11 ซม.) ตัวเต็มวัยลำตัวสีน้ำตาลแดง หัว คอหอย และคอเป็นสีดำ ขนคลุมโคนขนหางด้านบนและขนหางสีเหลืองถึงแดงเข้ม กลางท้องสีดำหรือสีขาว ตัวไม่เต็มวัยสีน้ำตาลแกมสีเนื้อจาง หัวสีเข้ม แต่จะจางกว่าลำตัวด้านบน แตกต่างจากนกกระติ๊ดขี้หมูตัวไม่เต็มวัยโดยปากทั้งหมดเป็นสีน้ำเงิน | ||
| + | |||
| + | '''อุปนิสัยและอาหาร''' : พบตามทุ่งหญ้า ทุ่งนา ป่าละเมาะ โดยเฉพาะตามพื้นที่ชุ่มน้ำรวมทั้งชายเลน ในระดับพื้นราบจนกระทั่งความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล อุปนิสัยไม่แตกต่างจากนกกระติ๊ดขี้หมู | ||
| + | |||
| + | '''การผสมพันธุ์''' : ผสมพันธุ์เกือบตลอดปีระหว่างเดือนธันวาคมของปีหนึ่งถึงเดือนตุลาคมปีถัดไป ทำรังตามกอกกหรือกอหญ้าที่ขึ้นในน้ำหรือริมแหล่งน้ำ โดยเฉพาะบึง หนอง และทะเลสาบ บางครั้งอาจทำรังตามพุ่มไม้ที่รกทึบ รังเป็นรูปทรงกลมมีทางเข้าออกอยู่ทางด้านข้าง สร้างรังด้วยการสานใบหญ้าและใบกกที่ฉีกเป็นเส้นยาว ๆ อาจรองรังด้วยใบไม้ รังมีไข่ 4-6 ฟอง | ||
| + | |||
| + | '''ไข่''' : สีขาว ขนาดของไข่โดยเฉลี่ย 11.5x16.3 มม. ยังไม่ทราบชีววิทยาการสืบพันธุ์ด้านอื่น คาดว่าไม่แตกต่างจากนกกระติ๊ดในสกุลเดียวกัน | ||
| + | |||
| + | '''สถานภาพ''' : เป็นนกประจำถิ่น พบไม่บ่อยและปริมาณไม่มากนัก พบทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ | ||
| + | |||
| + | '''กฎหมาย''' : จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง | ||
| + | ---- | ||
รุ่นปรับปรุงเมื่อ 07:39, 9 ธันวาคม 2558
วงศ์ : Lonchura Sykes
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lonchura Malacca (Linnaeus) 1766.
ชื่อสามัญ : Black-headed Munia
ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ : นกปากตะกั่ว , Chestnut Munia
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lonchura Malacca ชื่อชนิดมาจากชื่อสถานที่ที่พบครั้งแรก คือเมือง Malacca ประเทศมาเลเซีย ทั่วโลกมี 10 ชนิดย่อย ประเทศไทยพบ 2 ชนิดย่อยคือ Lonchura Malacca deignani Parkes ชื่อชนิดย่อยมาจากชื่อบุคคล พบครั้งแรกที่จังหวัดเชียงราย และ Lonchura Malacca sinensis (Blyth) ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษาละตินสมัยใหม่คือ sinens แปลว่าแห่งประเทศจีน พบครั้งแรกที่เกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย (เป็นเมืองที่คนจีนอาศัยอยู่มาก)
กระจายพันธุ์ : ในอินเดีย จีนด้านตะวันตกเฉียงใต้ เกาะไหหลำ ไต้หวัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะซุนดาใหญ่ เกาะสุลาเวซี และฟิลิปปินส์
ลักษณะทั่วไป : เป็นนกขนาดเล็ก (11 ซม.) ตัวเต็มวัยลำตัวสีน้ำตาลแดง หัว คอหอย และคอเป็นสีดำ ขนคลุมโคนขนหางด้านบนและขนหางสีเหลืองถึงแดงเข้ม กลางท้องสีดำหรือสีขาว ตัวไม่เต็มวัยสีน้ำตาลแกมสีเนื้อจาง หัวสีเข้ม แต่จะจางกว่าลำตัวด้านบน แตกต่างจากนกกระติ๊ดขี้หมูตัวไม่เต็มวัยโดยปากทั้งหมดเป็นสีน้ำเงิน
อุปนิสัยและอาหาร : พบตามทุ่งหญ้า ทุ่งนา ป่าละเมาะ โดยเฉพาะตามพื้นที่ชุ่มน้ำรวมทั้งชายเลน ในระดับพื้นราบจนกระทั่งความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล อุปนิสัยไม่แตกต่างจากนกกระติ๊ดขี้หมู
การผสมพันธุ์ : ผสมพันธุ์เกือบตลอดปีระหว่างเดือนธันวาคมของปีหนึ่งถึงเดือนตุลาคมปีถัดไป ทำรังตามกอกกหรือกอหญ้าที่ขึ้นในน้ำหรือริมแหล่งน้ำ โดยเฉพาะบึง หนอง และทะเลสาบ บางครั้งอาจทำรังตามพุ่มไม้ที่รกทึบ รังเป็นรูปทรงกลมมีทางเข้าออกอยู่ทางด้านข้าง สร้างรังด้วยการสานใบหญ้าและใบกกที่ฉีกเป็นเส้นยาว ๆ อาจรองรังด้วยใบไม้ รังมีไข่ 4-6 ฟอง
ไข่ : สีขาว ขนาดของไข่โดยเฉลี่ย 11.5x16.3 มม. ยังไม่ทราบชีววิทยาการสืบพันธุ์ด้านอื่น คาดว่าไม่แตกต่างจากนกกระติ๊ดในสกุลเดียวกัน
สถานภาพ : เป็นนกประจำถิ่น พบไม่บ่อยและปริมาณไม่มากนัก พบทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้
กฎหมาย : จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง