ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นกปลีกล้วยเล็ก"
(สร้างหน้าว่าง) |
|||
แถว 1: | แถว 1: | ||
+ | '''วงศ์''' : Arachnothera Temminck <br> | ||
+ | '''ชื่อวิทยาศาสตร์''' : ''Arachnothera Longirostra'' (Latham) 1790.<br> | ||
+ | '''ชื่อสามัญ''' : Little Spiderhunter<br> | ||
+ | '''ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ''' : -<br><br> | ||
+ | |||
+ | มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ''Arachnothera Longirostra'' ชื่อชนิดมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ long, -I หรือ longus แปลว่ายาว และ rostr, =um แปลว่าปาก ความหมายคือ “นกที่มีปากยาว” พบครั้งแรกที่ประเทศปากีสถาน ทั่วโลกมี 12 ชนิดย่อย ประเทศไทยพบ 4 ชนิดย่อยคือ | ||
+ | #Arachnothera Longirostra longirostra (Latham) ที่มาและความหมายของชื่อชนิดย่อยเช่นเดียวกับชนิด | ||
+ | #Arachnothera Longirostra sordida La Touche ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ sord, -id หรือ sordidus แปลว่าเปรอะเปื้อนหรือสกปรก ความหมายคือ “นกที่มีสีทึม” พบครั้งแรกที่ประเทศจีน | ||
+ | #Arachnothera Longirostra pallidus Delacour ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ pall, -ens, -esc, -id, -or หรือ pallidus แปลว่าจาง ความหมายคือ “นกที่มีสีจาง” พบครั้งแรกที่ประเทศลาว และ | ||
+ | #Arachnothera Longirostra cinireicollis (Vieillot) ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ cini, =s หรือ ciner, -ar, -e, -I หรือ cinereus แปลว่าสีเทา และ coll, -I หรือ collis แปลว่าคอ ความหมายคือ “นกที่มีคอสีเทา” พบครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย | ||
+ | |||
+ | '''กระจายพันธุ์''' : ในปากีสถาน อินเดีย จีนด้านตะวันตกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะซุนดาใหญ่ และฟิลิปปินส์ | ||
+ | |||
+ | '''ลักษณะทั่วไป''' : เป็นนกขนาดเล็ก (16 ซม.) ตัวเต็มวัยมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับนกปลีกล้วยอื่น ๆ หัวสีเทา คิ้วและรอบตาสีขาว คอหอยสีขาวแกมเทา อกสีเขียวอ่อนแกมเหลือง ท้องและขนคลุมโคนขนหางด้านล่างสีเหลือง ปลายหางด้านล่างสีขาวแกมเทา ลำตัวด้านบนสีเขียวอ่อนถึงสีเขียว | ||
+ | |||
+ | '''อุปนิสัยและอาหาร''' : พบตามป่าดงดิบชื้น ป่าดงดิบแล้ง ชายป่า และป่ารุ่น ปกติในระดับต่ำว่า 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล อาจพบอยู่โดดเดี่ยวหรือเป็นคู่ พบเป็นประจำตามป่ากล้วย โดยเกาะตามปลีกล้วยและใช้ปากดูดกินน้ำหวานจากกลีบหนึ่งไปยังอีกกลีบหนึ่ง ซึ่งบางครั้งมุดเข้าไปอยู่ระหว่างกาบของปลีกล้วยทั้งตัวจนมองไม่เห็นตัว นอกจากนี้ยังกินน้ำหวานดอกไม้อื่น ๆ โดยเฉพาะดอกทองหลางป่าและดอกงิ้วและยังกินแมลงตามกิ่งไม้หรือที่มาตอมดอกไม้ แมงมุมที่ชักใยตามต้นไม้และตามกอกล้วยก็เป็นอาหารที่กินบ่อยมาก | ||
+ | |||
+ | '''การผสมพันธุ์''' : ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ส่วนใหญ่ทำรังใต้ใบกล้วย รังเป็นรูปกึ่งทรงกระบอกยาวไปตามลักษณะของใบกล้วย มีความยาวประมาณ 20 ซม. และกว้างประมาณ 5-10 ซม. ทางเข้าออกอยู่บริเวณปลายด้านบน รังประกอบด้วยใบหญ้าและใบไม้แห้ง แล้วเย็บติดกับใบกล้วยหรือเชื่อมกันด้วยใยแมงมุม รังมีไข่ 2 ฟอง | ||
+ | |||
+ | '''ไข่''' : สีขาวแกมชมพู มีลายทางสีแดงเข้มถึงน้ำตาลเป็นวงรอบไข่ด้านป้าน และลายขีดเล็ก ๆ สี เดียวกันกระจายทั่วฟอง ขนาดของไข่โดยเฉลี่ย 13.1x18.4 มม. ทั้งสองเพศช่วยกันทำรัง ฟักไข่ และเลี้ยงดูลูกอ่อน ยังไม่ทราบระยะเวลาการฟักไข่และเลี้ยงดูลูกอ่อน | ||
+ | |||
+ | '''สถานภาพ''' : เป็นนกประจำถิ่น พบบ่อยและปริมาณปานกลาง ชนิดย่อย longirostra พบทางภาคเหนือด้านตะวันตกและภาคตะวันตก ตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่ลงมาจนถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชนิดย่อย sordida พบทางภาคเหนือด้านตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ชนิดย่อย pallida พบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงใต้ และชนิดย่อย cinereicollis พบทางภาคใต้ตั้งแต่คอคอดกระลงไป | ||
+ | |||
+ | '''กฎหมาย''' : ยังไม่จัดเป็นสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง | ||
+ | ---- |
รุ่นปรับปรุงเมื่อ 08:04, 9 ธันวาคม 2558
วงศ์ : Arachnothera Temminck
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Arachnothera Longirostra (Latham) 1790.
ชื่อสามัญ : Little Spiderhunter
ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ : -
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Arachnothera Longirostra ชื่อชนิดมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ long, -I หรือ longus แปลว่ายาว และ rostr, =um แปลว่าปาก ความหมายคือ “นกที่มีปากยาว” พบครั้งแรกที่ประเทศปากีสถาน ทั่วโลกมี 12 ชนิดย่อย ประเทศไทยพบ 4 ชนิดย่อยคือ
- Arachnothera Longirostra longirostra (Latham) ที่มาและความหมายของชื่อชนิดย่อยเช่นเดียวกับชนิด
- Arachnothera Longirostra sordida La Touche ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ sord, -id หรือ sordidus แปลว่าเปรอะเปื้อนหรือสกปรก ความหมายคือ “นกที่มีสีทึม” พบครั้งแรกที่ประเทศจีน
- Arachnothera Longirostra pallidus Delacour ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ pall, -ens, -esc, -id, -or หรือ pallidus แปลว่าจาง ความหมายคือ “นกที่มีสีจาง” พบครั้งแรกที่ประเทศลาว และ
- Arachnothera Longirostra cinireicollis (Vieillot) ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ cini, =s หรือ ciner, -ar, -e, -I หรือ cinereus แปลว่าสีเทา และ coll, -I หรือ collis แปลว่าคอ ความหมายคือ “นกที่มีคอสีเทา” พบครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย
กระจายพันธุ์ : ในปากีสถาน อินเดีย จีนด้านตะวันตกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะซุนดาใหญ่ และฟิลิปปินส์
ลักษณะทั่วไป : เป็นนกขนาดเล็ก (16 ซม.) ตัวเต็มวัยมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับนกปลีกล้วยอื่น ๆ หัวสีเทา คิ้วและรอบตาสีขาว คอหอยสีขาวแกมเทา อกสีเขียวอ่อนแกมเหลือง ท้องและขนคลุมโคนขนหางด้านล่างสีเหลือง ปลายหางด้านล่างสีขาวแกมเทา ลำตัวด้านบนสีเขียวอ่อนถึงสีเขียว
อุปนิสัยและอาหาร : พบตามป่าดงดิบชื้น ป่าดงดิบแล้ง ชายป่า และป่ารุ่น ปกติในระดับต่ำว่า 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล อาจพบอยู่โดดเดี่ยวหรือเป็นคู่ พบเป็นประจำตามป่ากล้วย โดยเกาะตามปลีกล้วยและใช้ปากดูดกินน้ำหวานจากกลีบหนึ่งไปยังอีกกลีบหนึ่ง ซึ่งบางครั้งมุดเข้าไปอยู่ระหว่างกาบของปลีกล้วยทั้งตัวจนมองไม่เห็นตัว นอกจากนี้ยังกินน้ำหวานดอกไม้อื่น ๆ โดยเฉพาะดอกทองหลางป่าและดอกงิ้วและยังกินแมลงตามกิ่งไม้หรือที่มาตอมดอกไม้ แมงมุมที่ชักใยตามต้นไม้และตามกอกล้วยก็เป็นอาหารที่กินบ่อยมาก
การผสมพันธุ์ : ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ส่วนใหญ่ทำรังใต้ใบกล้วย รังเป็นรูปกึ่งทรงกระบอกยาวไปตามลักษณะของใบกล้วย มีความยาวประมาณ 20 ซม. และกว้างประมาณ 5-10 ซม. ทางเข้าออกอยู่บริเวณปลายด้านบน รังประกอบด้วยใบหญ้าและใบไม้แห้ง แล้วเย็บติดกับใบกล้วยหรือเชื่อมกันด้วยใยแมงมุม รังมีไข่ 2 ฟอง
ไข่ : สีขาวแกมชมพู มีลายทางสีแดงเข้มถึงน้ำตาลเป็นวงรอบไข่ด้านป้าน และลายขีดเล็ก ๆ สี เดียวกันกระจายทั่วฟอง ขนาดของไข่โดยเฉลี่ย 13.1x18.4 มม. ทั้งสองเพศช่วยกันทำรัง ฟักไข่ และเลี้ยงดูลูกอ่อน ยังไม่ทราบระยะเวลาการฟักไข่และเลี้ยงดูลูกอ่อน
สถานภาพ : เป็นนกประจำถิ่น พบบ่อยและปริมาณปานกลาง ชนิดย่อย longirostra พบทางภาคเหนือด้านตะวันตกและภาคตะวันตก ตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่ลงมาจนถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชนิดย่อย sordida พบทางภาคเหนือด้านตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ชนิดย่อย pallida พบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงใต้ และชนิดย่อย cinereicollis พบทางภาคใต้ตั้งแต่คอคอดกระลงไป
กฎหมาย : ยังไม่จัดเป็นสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง