ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พิกุล"

จาก ฐานข้อมูลพืชสมุนไพรในศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาท่าเพชรจังหวัดสุราษฎร์ธานี
(สร้างหน้าด้วย "right '''วงศ์''' : Sapotaceae <br> '''ชื่อวิทยาศาสตร์''' : ''Mimusops elengi L.''<br> '...")
 
แถว 61: แถว 61:
 
----
 
----
 
'''แหล่งที่มาของภาพ''' <br>
 
'''แหล่งที่มาของภาพ''' <br>
https://i1.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5142.jpg?fit=2720%2C1072 <br>
+
https://i0.wp.com/herbth.wpcomstaging.com/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5150.jpg?fit=2732%2C1186 <br>
 
https://i1.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5012.jpg?fit=2720%2C1072 <br>
 
https://i1.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5012.jpg?fit=2720%2C1072 <br>
 
https://i0.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5153.jpg?fit=2720%2C1072 <br>
 
https://i0.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5153.jpg?fit=2720%2C1072 <br>
 
https://i0.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5055.jpg?fit=2720%2C1072 <br>
 
https://i0.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5055.jpg?fit=2720%2C1072 <br>
 
https://i2.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5075.jpg?fit=2720%2C1072 <br>
 
https://i2.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5075.jpg?fit=2720%2C1072 <br>

รุ่นปรับปรุงเมื่อ 16:37, 22 กันยายน 2564

Phikul.png

วงศ์ : Sapotaceae
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mimusops elengi L.
ชื่อสามัญ : Asian bulletwood, Bullet wood, Bukal, Tanjong tree, Medlar, Spanish cherry
ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ : กุน, แก้ว, ซางดง, พิกุลเขา, พิกุลเถื่อน, พิกุลป่า

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น : ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ไม่ผลัดใบ มีความสูงของต้นประมาณ 10-25 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านเป็นพุ่มกว้างหนาทึบ เปลือกต้นเป็นสีเทาอมสีน้ำตาลและแตกเป็นรอยแตกระแหงตามแนวยาว ทั้งต้นมีน้ำยางสีขาว ส่วนกิ่งอ่อนและตามีขนสีน้ำตาลขึ้นปกคลุม
ใบ : มีใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกันแบบห่าง ๆ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่หรือรูปรี ใบมีความกว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-12 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลมหรือหยักเป็นติ่งสั้น ๆ โคนใบมน ส่วนขอบใบเรียบและเป็นคลื่นเล็กน้อย หลังใบเป็นสีเขียวเรียบเป็นมัน ท้องใบจะเป็นสีเขียวอ่อน และเนื้อใบมีลักษณะค่อนข้างเหนียว ส่วนก้านใบยาวประมาณ 4-6 เซนติเมตร หูใบมีลักษณะเป็นรูปเรียวแคบ ยาวประมาณ 3-5 มิลลิเมตร และหลุดร่วงได้ง่าย
ดอก : ออกดอกเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นกระจุกประมาณ 2-6 ดอก โดยจะออกตามซอกใบหรือตามปลายกิ่ง ดอกพิกุลจะมีขนาดเล็กสีขาวนวล มีกลิ่นหอม (กลิ่นยังคงอยู่แม้ตากแห้งแล้ว) และหลุดร่วงได้ง่าย เมื่อดอกบานเต็มที่จะกว้างประมาณ 0.7-1 เซนติเมตร ก้านดอกย่อยมีความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร มีกลีบเลี้ยง 8 กลีบ เรียงซ้อนกัน 2 ชั้น ชั้นละ 4 กลีบ ส่วนกลีบเลี้ยงด้านนอกมีลักษณะเป็นรูปใบหอก ปลายแหลม มีขนสั้นสีน้ำตาลนุ่ม ยาวประมาณ 7-8 มิลลิเมตร โดยกลีบดอกจะสั้นกวากลีบเลี้ยงเล็กน้อย กลีบดอกมี 8 กลีบ ที่โคนกลีบเชื่อมกันเล็กน้อย กลีบดอกแต่ละกลีบจะมีส่วนยื่นออกมาด้านหลัง 2 ชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีลักษณะ ขนาด และสีคล้ายคลึงกับกลีบดอกมาก ดอกมีเกสรตัวผู้สมบูรณ์ 8 ก้าน อับเรณูเป็นรูปใบหอกและยาวกว่าก้านชูอับเรณู เกสรตัวผู้เป็นหมัน 8 อัน และรังไข่มี 8 ช่อง เมื่อดอกใกล้โรยจะเป็นสีเหลืองอมสีน้ำตาล
ผล : ผลเป็นรูปไข่ถึงรี ผิวผลมีลักษณะเรียบ ผลอ่อนเป็นสีเขียวมีขนสั้นนุ่ม เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแสด ที่ขั้วผลมีกลีบเลี้ยงติดคงทน ผลมีขนาดกว้างประมาณ 1.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 2.5-3 เซนติเมตร เนื้อในผลเป็นสีเหลืองมีรสหวานอมฝาดและมีเมล็ดอยู่ 1 เมล็ด ลักษณะแบนรี แข็ง สีดำเป็นมัน
การขยายพันธุ์  : วิธีการเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง และวิธีการปักชำกิ่ง ชอบขึ้นในพื้นที่ดินดี ชอบแสงแดดจัด ทนทานต่อสภาพน้ำท่วมขังได้นานถึง 2 เดือน มีการเพาะปลูกมากในมาเลเซีย เกาะโซโลมอน นิวแคลิโดเนีย วานูอาตู และออสเตรเลียทางตอนเหนือ รวมไปถึงเขตร้อนทั่ว ๆ ไป

สรรพคุณ

1. ใช้เป็นยาบำรุงโลหิต (ดอก, แก่น, แก่นที่ราก, ราก)
2. แก่นที่รากและดอกแห้งใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ส่วนดอกสดใช้เข้ายาหอมช่วยบำรุงหัวใจเช่นกัน (ดอก, ขอนดอก, แก่นที่ราก)
3. ช่วยบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น (ขอนดอก, ดอกแห้ง)
4. ช่วยคุมธาตุในร่างกาย (เปลือกต้น)
5. ช่วยแก้โลหิต (ดอก, ราก) ฆ่าพิษโลหิต (เปลือกต้น)
6. ช่วยแก้เลือดตีขึ้นให้สลบไป แก้เลือดตีขึ้นถึงกับตาเหลือง (ใบ)
7. ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย (ดอกแห้ง)
8. ช่วยแก้หอบ (ดอกแห้ง)
9. ช่วยแก้หืด (ใบ)
10. แก่นใช้เป็นยาแก้ไข้ (แก่น, ผลดิบและเปลือก, ดอกแห้ง), แก้ไข้จับ แก้ไข้หมดสติ แก้ไข้คลั่งเพ้อ (ดอกแห้ง)
11. ช่วยแก้อาการร้อนใน (ดอกแห้ง)
12. ผลสุกใช้รับประทานแก้อาการปวดศีรษะ (ผลสุก, ดอกแห้ง)
13. ดอกแห้งใช้ป่นทำเป็นยานัตถุ์ (ดอกแห้ง)
14. ช่วยรักษาโรคคอ (เปลือกต้น)
15. ผลสุกใช้รับประทานแก้โรคในลำคอและปาก (เปลือกต้น)
16. ช่วยแก้อาการเจ็บคอ (ดอกแห้ง)
17. เปลือกต้นใช้เป็นยาอมกลั้วคอล้างปาก แก้โรคเหงือกอักเสบ เหงือกบวม รำมะนาด (เปลือกต้น)
18. เปลือกต้นนำมาต้มกับน้ำเกลือช่วยแก้อาการปวดฟัน ช่วยทำให้ฟันแน่น แก้ฟันโยก ช่วยฆ่าแมงกินฟันที่ทำให้ฟันผุ (เปลือกต้น)
19. ช่วยรักษาอาการปากเปื่อย (เปลือกต้น)
20. ดอกแห้งช่วยขับเสมหะ แก้เสมหะ ละลายเสมหะ (ดอกแห้ง, ราก)
21. รากและดอกใช้ปรุงเป็นยาแก้ลม (ระบบไหลเวียนทางโลหิต) ช่วยขับเสมหะที่เกิดจากลม (ราก, ดอก)
22. ช่วยบำรุงปอด (ขอนดอก)
23. ช่วยแก้อาการท้องเสีย ลงท้อง (ดอกสด, ดอกแห้ง, ผลดิบและเปลือก, เปลือกต้น, ราก)
24. เมล็ดนำมาตำให้ละเอียด แล้วทำเป็นยาเม็ดสำหรับสวนทวารหรือทำเป็นยาเหน็บทวารเด็กเมื่อมีอาการท้องผูก ช่วยแก้โรคท้องผูก (เข้าใจว่าใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่) (เมล็ด)
25. ช่วยขับลม (แก่นที่ราก)
26. ช่วยรักษาไส้ด้วนไส้ลาม (ใบ)
27. ใบมีสรรพคุณฆ่าพยาธิ (ใบ, แก่น) ช่วยแก้ตัวพยาธิ (ดอกแห้ง, เปลือกต้น, ราก)
28. เมล็ดใช้เป็นยาขับปัสสาวะ (เมล็ด)
29. ใบช่วยรักษากามโรค ฆ่าเชื้อกามโรค (ใบ)
30. ช่วยแก้ตกโลหิต (ดอกแห้ง, ราก)
31. ขอนดอก (เนื้อไม้ที่ราลง มีสีน้ำตาลเข้มประขาว เรียกว่า "ขอนดอก") ใช้เป็นยาบำรุงตับ (ขอนดอก)
32. ผลดิบและเปลือกเป็นยาฝาดมาน (ผลดิบและเปลือก, ดอกสด)
33. ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและตามร่างกาย (ดอก)
34. ช่วยแก้อาการบวม (ดอกแห้ง, เปลือกต้น, ราก)
35. ช่วยแก้เกลื้อน (กระพี้) ส่วนแก่นช่วยรักษากลากเกลื้อน (แก่น)
36. ช่วยแก้ฝีเปื่อยพัง (ดอกแห้ง, ราก)
37. ช่วยบำรุงครรภ์ของสตรี (ครรภ์รักษา) (ขอนดอก)
38. ดอกพิกุลจัดอยู่ในตำรับยา "พิกัดเกสรทั้งห้า" (ประกอบไปด้วยดอกพิกุล ดอกมะลิ ดอกบุนนาค ดอกสารภี และเกสรบัวหลวง), ตำรับยา "พิกัดเกสรทั้งเจ็ด" (เพิ่มดอกจำปาและดอกกระดังงา), ตำรับยา "พิกัดเกสรทั้งเก้า" (เพิ่มดอกลำดวนและดอกลำเจียก) ซึ่งเป็นตำรับยาที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงดวงจิตให้ชุ่มชื่น ทำให้ชื่นใจ ช่วยแก้อาการวิงเวียน หน้ามืดตาลาย ช่วยแก้ลมกองละเอียด และช่วยบำรุงครรภ์ของสตรี หรือจะใช้เข้ายาผสมกับดอกไม้ชนิดอื่นที่มีกลิ่นหอมเพื่อทำบุหงาก็ได้ (ดอก)
39. ดอกพิกุลจัดอยู่ในตำรับยา "พิกัดจตุทิพยคันธา" (ประกอบไปด้วยดอกพิกุล รากชะเอมเทศ รากมะกล่ำเครือ เหง้าขิงแครง) ซึ่งเป็นตำรับยาที่ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย บำรุงหัวใจ แก้ลมปั่นป่วน แก้พรรดึก และแก้เสมหะ (ดอก)
40. ดอกพิกุลจัดอยู่ใน "ตำรับยาเขียวหอม" ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ซึ่งเป็นตำรับยาที่ช่วยบรรเทาอาการไข้ แก้อาการร้อนในกระหายน้ำ แก้พิษหัด และแก้พิษสุกใส (ช่วยบรรเทาอาการไข้จากหัดและสุกใส) (ดอก)[5]
41. ดอกพิกุลจัดอยู่ในตำรับ "ยาหอมนวโกฐ" ซึ่งเป็นตำรับยาที่มีสรรพคุณช่วยแก้ลมวิงเวียน คลื่นเหียน อาเจียน ช่วยแก้ลมจุกแน่นในอก ในผู้สูงอายุ ช่วยแก้ลมปลายไข้ (มีอาการคลื่นเหียน วิงเวียน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ท้องอืด ซึ่งเป็นอาการหลังจากการฟื้นไข้) (ดอก)
42. ดอกพิกุลจัดอยู่ในตำรับยา "ยาหอมเทพจิตร" ซึ่งเป็นตำรับยาที่มีสรรพคุณช่วยแก้ลมกองละเอียด หรืออาการหน้ามืดตาลาย สวิงสวาย ใจสั่น และช่วยบำรุงดวงจิตให้ชุ่มชื่น (ดอก)

Phikul1.png Phikul2.png Phikul3.png Phikul4.png

แหล่งที่มาของภาพ
https://i0.wp.com/herbth.wpcomstaging.com/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5150.jpg?fit=2732%2C1186
https://i1.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5012.jpg?fit=2720%2C1072
https://i0.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5153.jpg?fit=2720%2C1072
https://i0.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5055.jpg?fit=2720%2C1072
https://i2.wp.com/herb.in.th/wp-content/uploads/2018/08/e0b895e0b989e0b899e0b89ee0b8b4e0b881e0b8b8e0b8a5075.jpg?fit=2720%2C1072