ตำลึง

จาก โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชผักป่าพื้นบ้านภาคใต้ที่มีอยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี

Coccinia grandis Voigt C indica.jpg

วงศ์ CUCURBITACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ Coccinia grandis Voigt C. indica
ชื่อสามัญPhak tamlueng
ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ ผักตำลึง ผักแคบ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้เถาเลื้อย ลำต้น เลื้อยพันอาศัยมือเกาะซึ่งเป็นเส้นกลม ๆ สีเขียวยาว เป็นของอคล้านลวดสปริง เป็นเส้นเดี่ยวไม่แตกแขนง ออกตรงกันข้ามกับใบ ใบ เดี่ยวเรียงสลับ ฐานใบรูปหัวใจ ปลายใบแหลมขอบในหยักแบบฟันเลื่อยตื้น ๆ หยักเว้าห้าแฉก เส้นใบแยกจาก โคนใบที่จุดเดียวกัน 5-7 เส้น ใบกว้าง 3-4 เซนติเมตร ดอก เป็นดอก เดี่ยวออกที่ซอกใบ ออกเดี่ยว ๆหรืออกเป็นกลุ่ม 2-3 ดอก กลีบดอกมี 5 กลีบ สีขาว ติดกันเป็นรูประฆัง ดอกเพศผู้และเพศเมียอยู่บนต้นเดียวกัน ผลอ่อนสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีแดงสด เมื่อแก่รูปร่างแบบทรงขนาน ภายในมีเมล็ดมาก ออกดอก ระหว่างเดือนเมษายน - ธันวาคมและติดผลเดือนมิถุนายน-มกราคม
ประโยชน์ด้านอาหาร ใบ เถา ผลอ่อน ต้ม ดอง เป็นผักจิ้ม ใบลวกจิ้ม ปรุงแกงจืดหมูสับ แกงเลียง หรือใส่ก๋วยเตี๋ยว แทนถั่วงอก คุณค่าทางอาหารสูงวิตามินเอ แร่ฐาตุ แคลเซียม โพแทสเซียม เหล็ก
สรรพคุณทางยา

  • ใบและเถา มีเอ็นไซม์ amylase ย่อยแป้งซึ่งทำให้มีอาการท้องอืดเฟ้อ
  • ใบ ใบสดล้างสะอาด ตำให้แหลก ผสมน้ำทา ใช้พอกบริเวณที่ปวด ใบใช้ในการแก้ไข้ตัวร้อน ตาแดง ตาเจ็บ ใบช่วยลดน้ำตาลในเลือด
  • เถา นำน้ำต้มจากเถาตำลึงมาหยอดตาแก้ตาแดง ตาฟาง
  • ดอก ช่วยทำให้หายจากอาการคันได้
  • ราก ใช้แก้อาการอาเจียน ตาฝ้า
  • น้ำยางจากต้น ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

เพาะขยายพันธุ์ โดยใช้เมล็ดและตัดชำลำต้น

Coccinia grandis Voigt C indica 01.jpg Coccinia grandis Voigt C indica 02.jpg Coccinia grandis Voigt C indica 03.jpg Coccinia grandis Voigt C indica 04.jpg