ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ย่านาง"
(สร้างหน้าด้วย "ภาพ:Tiliacora_triandra_Diels.jpg<br/><br/> '''วงศ์''' MENISPERMACEAE<br/> '''ชื่อวิทยาศาสตร์''' ''Tiliaco...") |
ล (ล็อก "ย่านาง" ([แก้ไข=อนุญาตเฉพาะผู้ดูแลระบบ] (ไม่มีกำหนด) [เปลี่ยนชื่อ=อนุญาตเฉพาะผู้ดูแลระ...) |
(ไม่แตกต่าง)
|
รุ่นปัจจุบัน เมื่อ 15:07, 10 พฤศจิกายน 2558
วงศ์ MENISPERMACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tiliacora triandra Diels
ชื่อสามัญ Thao yanang
ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ ย่านวันยอ เถาย่านาง เถาวัลย์เขียว จอยนาง ปู่เจ้าเขาเขียว ขันยอ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้เถาเลื้อยพัน กิ่งอ่อนมีขนอ่อนปกคลุม เมื่อแก่แล้วผิวค่อนข้างเรียบ รากมีขนาดใหญ่ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกติดกับลำต้นแบบสลับ รูปร่างใบคล้ายรูปไข่หรือรูปไข่ขอบขนานปลายใบเรียว ฐานใบมน ขนาดใบยาว 5 - 10 ซม. กว้าง 2 - 4 ซม. ขอบใบเรียบ ก้านใบยาว 1 ซม. ดอกออกตามซอกโคนก้านใบเป็นช่องยาว 2 - 5 ซม. ช่อหนึ่ง ๆ มีดอกขนาดเล็กสีเหลือง 3 - 5 ดอก ดอกแยกเพศอยู่คนละต้นไม่มีกลีบดอก ผลรูปร่างกลมรีขนาดเล็ก สีเขียว เมื่อแก่กลายเป็นสีเหลืองอมแดงและกลายเป็นสีดำ
ประโยชน์ด้านอาหาร คนไทยอีสานกับคนลาวสามารถนำพืชผักชนิด มาปรุงอาหาร หลากหลายชนิด เช่นซุบหน่อไม้ แกงเปรอะ แกงหวาย แกงขี้เหล็ก หมกผักกุ่ม เป็นต้น ส่วนคนเขมร และเวียดนามนั้นมีแกงที่ใส่ใบย่านางอยู่ด้วยเหมือนกัน ยอดอ่อน มีการนำมาปรุงเป็นอาหารบ้าง แต่ไม่เป็นที่นิยม เช่นแกงเลียงยอดย่านาง ส่วนใหญ่นิยมนำใบแก่มาคั้นน้ำ แล้วนำมาปรุง
สรรพคุณทางยา
- นอกจากนั้น ทุกส่วนของย่านาง ยังมีสรรพคุณทางยาสมุนไพรต่างๆ อีกมากมาย และเป็นที่นิยมทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบในการทำสบู่บำรุงผิว เป็นผลิตเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นทำสบู่บำรุงผิว ยาสระผมบำรุงเส้นผมและขจัดรังแค บำรุงหนังศรีษะ ซึ่งนอกจากจะเป็นอาหารสุขภาพแล้วยังนำไปย้อมผ้าสีธรรมชาติได้อีกด้วย