ดูโค้ดสำหรับ กะเพรา
←
กะเพรา
ข้ามไป:
การนำทาง
,
ค้นหา
คุณไม่มีสิทธิแก้ไขหน้านี้ ด้วยเหตุต่อไปนี้:
ปฏิบัติการที่คุณขอนี้สงวนไว้เฉพาะผู้ใช้ในกลุ่ม:
ผู้ใช้
หน้านี้ถูกล็อกเพื่อป้องกันการแก้ไขหรือปฏิบัติการอื่น
คุณสามารถดูและคัดลอกโค้ดของหน้านี้:
[[ภาพ:Ocimum_sanctum_Linn_03.jpg]]<br/><br/> '''วงศ์''' LABIACEAE <br/> '''ชื่อวิทยาศาสตร์''' ''Ocimum tenuiflorum'' Linn.<br/> '''ชื่อสามัญ''' <br/> '''ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ''' กอมก้อ, กอมก้อดง, ห่อกวอซู, ห่อตูปลู, อิ่มคิมหลำ, ห่อกวอซู, ห่อตูปลู, อิ่มคิมหลำ, กะเพราขน, กะเพราขาว, กะเพราแดง (กลาง), อีตู่ข้า <br/> '''ลักษณะทางพฤกษศาสตร์''' กระเพรามี 2 พันธุ์คือกระเพราขาว มีลำต้นและใยเป็นสีเขียว และกระเพราแดง ซึ่งมีใบและลำต้นเป็นสีแดงอมเขียว กระเพราขาวนิยมนำมาเป็นเครื่องเทศ ส่วนกระเพราแดงนิยมใช้เป็นยาสมุนไพร ลำต้นค่อนข้างแข็ง ตามลำต้นมีขน ใบเป็นใบเดี่ยวการเกาะติดของใบบนกิ่งแบบตรงข้ามสลับตั้งฉาก เรียงตรงข้าม รูปรี กว้าง 1-3 ซม. ยาว 2.5-5 ซม. ใบปลายแหลมหรือมน โคนแหลม ขอบจักฟันเลื่อยและเป็นคลื่น แผ่นใบมีขน ดอกเป็นแบบช่อฉัตร ออกบริเวณปลายยอดและปลายกิ่ง ยาว 8-10 ซม. ดอกย่อยมีขนาดเล็ก รูปคล้ายระฆัง กลีบดอกมีทั้งชนิดสีขาวลายม่วงแดงและสีขาว โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นกรวย ส่วนปลายแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนบนแยกเป็น 4 กลีบปลายแหลมเรียว ส่วนล่างมีกลีบเดียวค่อนข้างกลม ผิวกลีบด้านในเกลี้ยง ด้านนอกมีขนตามโคนกลีบ กลีบเลี้ยงสีแดงน้ำตาลแกมม่วง และสีเขียว เนื้อกลีบแข็ง ส่วนโคนเชื่อมติดกันเป็นกรวย ส่วนปลายแยกเป็นกลีบปลายแหลมแบบหนาม ก้านดอกย่อยสีเขียว ยาวประมาณ 0.20-0.30 ซม. ผลแห้งแล้วแตกออก เมล็ด เล็ก รูปไข่สีน้ำตาล มีจุดสีเข้มเมื่อนำไปแช่น้ำเปลือกหุ้มเมล็ดพองออกเป็นเมือก<br/> '''ประโยชน์ด้านอาหาร''' กระเพราเป็นพืชสมุนไพรที่นิยมนำมาปรุงอาหารมากที่สุด ไม่ว่าร้านอาหารตามสั่งหรือร้านอาหาร ภัตตาคาร กระเพราเป็นผักสมุนไพรที่ชูโรงในการทำ ได้หลากหลายชนิด เช่นผัดกระเพรากับเนื้อสัตว์ ชนิดต่างๆ แกงเผ็ด แกงเลียง<br> '''สรรพคุณทางยา''' กระเพรา เป็นสมุนไพร * '''ส่วนใบ''' บำรุงธาตุไฟธาตุ ขับลมแก้ปวดท้องอุจจาระ แก้ลมตานซาง แก้จุกเสียด แก้คลื่นเหียนอาเจียน และขับลม * '''ส่วนเมล็ด''' เมื่อนำไปแช่น้ำเมล็ดจะพองตัวเป็นเมือกขาว ใช้พอกบริเวณตา เมื่อตามีผง หรือฝุ่นละอองเข้า ผงหรือฝุ่นละอองนั้นก็จะออกมา ซึ่งจะไม่ทำให้ตาเรานั้นช้ำอีกด้วย * '''ส่วนราก''' ใช้รากที่แห้งแล้ว ชงหรือต้มกับน้ำร้อนดื่ม แก้โรคธาตุพิการ * '''ส่วนใบและกิ่งสด''' เมื่อนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยโดยการต้มกลั่น (hydrodistillation) ได้น้ำมันหอมระเหยร้อยละ 0.08-0.10 ซึ่งมีราคา 10,000 บาทต่อกิโลกรัม * น้ำสกัด ทั้งต้นมีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ สามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ในใบมีฤทธิ์ขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมันและลดอาการจุกเสียด * รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ปวดท้อง ขับลม ขับเสมหะ บำรุงธาตุ ใช้ใบและยอด ( สด หนัก 25 กรัม - แห้งหนัก 4 กรัม ) ต้มเอาน้ำดื่ม เหมาะสำหรับเด็กท้องอืด * รักษาอาการคลื่นไส้อาเจียน ใช้ใบและยอด ( สด หนัก 25 กรัม - แห้งหนัก 4 กรัม ) ต้มเอาน้ำดื่ม เหมาะสำหรับเด็กท้องอืด<br/> '''เพาะขยายพันธุ์''' * ปลูกโดยการหว่านเมล็ด การปลูกด้วยวิธีนี้จะต้องใช้เมล็ดพันธุ์มากและใช้แรงงานมากในการถอนแยก โดยเริ่มจากรดน้ำให้ชุ่มทั่วแปลง แล้วหว่านเมล็ดพันธุ์ให้กระจายสม่ำเสมอทั่วแปลง โดยทั่วไปใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 250 กรัมต่อไร่ ใช้แกลบขาวหรือแกลบดำโรยคลุมให้ทั่วแปลง หลังจากนั้นใช้ฟางแห้งหรือหญ้าแห้งคลุมทับบางๆ เสร็จแล้วให้รดน้ำตาม และรดน้ำทุกๆ วัน หลังจากงอกประมาณ 15-20 วัน ควรทำการถอนแยกให้ได้ระยะระหว่าง 20x20 เซนติเมตร * ปลูกโดยการใช้ต้นกล้า เป็นวิธีที่เกษตรกรนิยมปฏิบัติกันมากเพราะให้ผลผลิตสูงและสะดวกในการจัดการ โดยทำการเพาะกล้าในแปลงเพาะจนกระทั่งกล้ามีอายุ 20-25 วัน จึงทำการย้ายปลูก การย้ายปลูกควรทำในตอนเย็นและปลูกให้เสร็จภายในวันเดียวกัน เมื่อถอนต้นกล้ามาแล้วจึงเด็ดยอดออก ขุดหลุมให้ได้ระยะ 20x20 เซนติเมตร แล้วนำต้นกล้าที่เด็ดยอดแล้วลงปลูก หลังจากนั้นใช้ฟางหรือหญ้าแห้งคลุมระหว่างแถว รดน้ำตามทันทีและรดน้ำทุกวัน * ปลูกโดยการใช้ต้นและกิ่งแก่ การปลูกโดยใช้ลำต้นและกิ่งแก่ทำให้ได้ผลผลิตเร็ว แก่กิ่งและยอดที่แตกออกมาใหม่มักไม่สวนเท่าที่ควร ลำต้นโทรมและตายเร็ว วิธีการโดยตัดต้นและกิ่งแก่ที่มีอายุมากกว่า 8 เดือน ให้มีความยาว 5-10 เซนติเมตร เด็ดยอดและใบออก แล้วนำต้นหรือกิ่งแก่ไปปักชำในแปลง ใช้ระยะปลูก 20x20 เซนติเมตร หลังจากนั้นใช้ฟางหรือหญ้าแห้งคลุมระหว่างแถว รดน้ำตามทันที และหลังจากปลูกควรรดน้ำทุกวัน<br/><br/> [[ภาพ:Ocimum_sanctum_Linn.jpg]] [[ภาพ:Ocimum_sanctum_Linn_01.jpg]] [[ภาพ:Ocimum_sanctum_Linn_02.jpg]] [[ภาพ:Ocimum_sanctum_Linn_04.jpg]] [[ภาพ:Ocimum_sanctum_Linn_05.jpg]]
กลับไป
กะเพรา
รายการเลือกการนำทาง
เครื่องมือส่วนตัว
สร้างบัญชี
ล็อกอิน
เนมสเปซ
หน้า
อภิปราย
สิ่งที่แตกต่าง
ดู
อ่าน
ดูโค้ด
ดูประวัติ
เพิ่มเติม
ค้นหา
การนำทาง
หน้าหลัก
กระเจี๊ยบแดง
กระทือ
กระวาน
กระสัง
กล้วยป่า
กลอย
กะเพรา
กะเม็ง
กานพลู
กำจัดต้น
ขี้เหล็ก
แค
จิกเขา
จิกนา
ดาหลา
ชะพลู
ชะมวง
ดีปลากั้ง
ตะลิงปลิง
ตำลึง
เต่าร้าง
เถาคัน
ทำมัง
ไทรเลียบ
บังบาย
บุกคางคก
บุกบ้าน
ใบบัวบก
ใบตับเต่า
ใบหูเสือ
ปุด
แป๊ะตำปึง
ผักกาดปลิว
ผักกาดนกเขา
ผักก้านตรง
ผักกุ่มน้ำ
ผักกูด
ผักแขยง
ผักโขม
ผักคราดหัวแหวน
ผักชีฝรั่ง
ผักชีล้อม
ผักชีลาว
ผักบุ้งไทย
ผักพาย
ผักแพว
ผักแว่นน้ำ
ผักเสี้ยน
ผักหนาม
ผักหวานช้าง
ผักหวานบ้าน
ผักเหลียง
ผักไห่
ผ้าร้ายห่อทอง
ฝอยทอง
พลูคาว
พาโหม
เพกา
มะกล่ำต้น
มะกอก
มะรุม
มังค่า
มันปู
แมงลัก
ย่านาง
ยอ
ราน้ำ
ลูกฉิ่ง
ลูกเนียง
ส้มแขก
ส้มเคยขาว
ส้มงั่ว
ส้มป่อย
เสม็ดชุน
โสน
หญ้าเบญจรงค์
หูหมี
โหระพา
วิธีใช้
คู่มือการใช้งาน
เครื่องมือ
หน้าที่ลิงก์มา
การปรับปรุงที่เกี่ยวโยง
หน้าพิเศษ
สารสนเทศหน้า