นกโพระดกหน้าผากดำ

จาก ระบบฐานข้อมูลชนิดนกชนิดนกในอุทยานแห่งชาติเขาสก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
Megalaima australis1.jpg

วงศ์ : Megalaimidae
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Megalaima australis (Horsfield) 1821.
ชื่อสามัญ : Blue-eared Barbet
ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ : -

มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่าMegalaima australis ชื่อชนิดดัดแปลงจากชื่อสถานที่ที่พบครั้งแรกคือประเทศออสเตรเลีย (คําในภาษาละตินคือ australis แปลว่าตอนใต้ ซึ่งอาจหมายถึงประเทศหรือทวีปออสเตรเลีย ซึ่งตั้งอยู่ทางซีกโลกใต้) ทั่วโลกมีนกโพระดกหน้าผากดํา 2 ชนิดย่อย ประเทศไทยพบ 2 ชนิดย่อย คือ

  1. Megalaima australis cyanotis (Blyth) ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษากรีกคือ cyan, -e, -i, -o หรือ kuanos แปลว่าสีน้ำเงินเข้ม และ ot, -i, -o หรือ -otis แปลว่าหู ความหมายคือ “นกที่มีขนบริเวณ หูเป็นสีน้ำเงินเข้ม” พบครั้งแรกที่ประเทศพม่า
  2. Megalaima australis stuarti (Robinson and Boden Kloss) ชื่อชนิดย่อยดัดแปลงจากชื่อของบุคคล พบครั้งแรกที่จังหวัดภูเก็ต
  3. Megalaima australis orientalis (Robinson) ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ orient, -al หรือ orientis หรือ oriens แปลว่าทิศตะวันออก และ -alis แปลว่าเป็นของ ความหมายคือ “นกที่พบทางซีกโลกตะวันออก” พบครั้งแรกที่ประเทศกัมพูชา

กระจายพันธุ์
ในอินเดียด้านตะวันออก จีนด้านตะวันตกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหมู่เกาะซุนดาใหญ่

ลักษณะทั่วไป
เป็นนกขนาดเล็ก (17-18 ซม.) ลักษณะทั่วไปคล้ายคลึงกับนกโพระดกคอสีฟ้า แต่นกโพระดกหน้าผากดำมีขนาดเล็กกว่า หน้าผากสีดำ กระหม่อมสีฟ้า ขนบริเวณหูสีฟ้า เหนือขนบริเวณหูมีแถบสีแดง แก้มสีเหลืองมีเส้นสีดำล้อมรอบ คอด้านข้างมีแถบสีแดง คอหอยสีฟ้า คอหอยตอนล่างมีแถบสีดำ

อุปนิสัยและอาหาร
อาศัยอยู่ตามป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบแล้ง ป่าดงดิบชื้น และป่ารุ่น ตั้งแต่ระดับพื้นราบจนกระทั่งความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล มักพบอยู่โดดเดี่ยวหรือเป็นคู่ อาจพบอยู่เป็นฝูงบนต้นไม้ที่ผลกำลังสุก และอาจพบอยู่รวมกับนกโพระดกชนิดอื่น โดยเฉพาะนกตีทอง ในช่วงเย็นหรือหลังจากกินอาหารจนอิ่ม มันมักบินไปเกาะตามกิ่งไม้แห้ง นกโพระดกหน้าผากดำส่งเสียงร้องเกือบตลอดวัน แต่ร้องบ่อยมากในช่วงเช้าและบ่าย มันมักร้องขณะเกาะตามยอดไม้และกิ่งไม้แห้ง โดยร้อง “โกเตก-โกเตก” ประมาณ 2 ครั้งต่อวินาที บางครั้งก็ร้องเป็นเสียง “เปลี่ยว-เปลี่ยว” แต่ละพยางค์ห่างกัน 1 วินาที อาหารส่วนใหญ่ ได้แก่ ผลไม้ขนาดเล็ก เช่น ไทร หว้า ตะขบ ผลของไม้เถา เป็นต้น นอกจากนี้ยังกินแมลงและตัวหนอนด้วย

การผสมพันธุ์
นกโพระดกหน้าผากดำผสมพันธุ์ในช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝนระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ทำรังตามโพรงบนต้นไม้ที่ยืนต้นตายและค่อนข้างผุหรือต้นไม้เนื้ออ่อนที่ยังมีชีวิต อาจเป็นโพรงที่เกิดตามธรรมชาติ โพรงที่นกหรือสัตว์อื่นทำไว้ หรือโพรงที่มันขุดเจาะเอง ไม่มีวัสดุรองโพรง

ไข่
รังมีไข่ 2-4 ฟอง ไข่สีขาว มีขนาดเฉลี่ย 18.3x24.5 มม. มันวางไข่แต่ละฟองทิ้งช่วงห่างกันนานกว่า 24 ชั่วโมง ทั้งสองเพศช่วยกันฟักไข่และเลี้ยงดูลูกอ่อน ใช้เวลาพัก ไข่ 13-14 วัน ลูกนกแรกเกิดยังไม่ลืมตา ไม่มีขนปกคลุมร่างกาย และยังช่วยเหลือตนเองไม่ได้ พ่อแม่ต้องกกและป้อนอาหารจนลูกนกมีขนปกคลุมเต็มร่างกายแข็งแรง และบินได้ ประมาณ 1 เดือน หลังออกจากไข่ ลูกนกจะทิ้งรังไปหากินตามลำพัง

สถานภาพ
นกโพระดกหน้าผากดำเป็นนกประจำถิ่น พบบ่อยและปริมาณปานกลาง ชนิดย่อย cyanotis พบทางภาคเหนือ ชนิดย่อย stuarti พบทางภาคตะวันตกและภาคใต้ ชนิดย่อย orientalis พบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกเฉียงใต้

กฎหมาย
กฎหมายจัดนกโพระดกหน้าผากดำทุกชนิดย่อยเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง

ลิงค์ข้อมูลเพิ่มเติม
นกโพระดกหน้าผากดำ


Megalaima australis02.jpg Megalaima australis03.jpg

แหล่งที่มาของภาพ
https://live.staticflickr.com/8053/8372374401_a05fb07db5_b.jpg
https://live.staticflickr.com/4257/35261704532_040f8cce9f_b.jpg
https://live.staticflickr.com/4250/34096437664_77e73a9aca_b.jpg