ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นกกระจิบคอดำ"
 (สร้างหน้าด้วย "right '''วงศ์''' :  Cisticolidae<br> '''ชื่อวิทยาศาสตร์''' : ''Orthot...")  | 
				|||
| (ไม่แสดง 4 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
| แถว 5: | แถว 5: | ||
'''ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ''' : Black-necked Tailorbird<br>  | '''ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ''' : Black-necked Tailorbird<br>  | ||
| − | มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ''Orthotomus atrogularis'' ชื่อชนิดมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ atr, -i หรือ ater แปลว่าสีดำ และ gularis (gul, =a) แปลว่าคอหอย ความหมายคือ “นกที่มีคอหอยสีดำ” พบครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย ทั่วโลกมี 10 ชนิดย่อย ประเทศไทยพบ 2   | + | มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ''Orthotomus atrogularis'' ชื่อชนิดมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ atr, -i หรือ ater แปลว่าสีดำ และ gularis (gul, =a) แปลว่าคอหอย ความหมายคือ “นกที่มีคอหอยสีดำ” พบครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย ทั่วโลกมี 10 ชนิดย่อย ประเทศไทยพบ 2 ชนิดย่อย คือ Orthotomus atrogularis atrogularis Temminck ที่มาและความหมายของชื่อชนิดย่อยเช่นเดียวกับชนิด และ Orthotomus atrogularis nitidus Hume ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ nitid แปลว่าส่องแสงหรือสวยงาม ความหมายคือ “นกที่มีสีสดใสสวยงาม” พบครั้งแรกที่เมืองตะนาวศรี ทางตอนใต้ของประเทศพม่า    | 
'''กระจายพันธุ์''' <br>  | '''กระจายพันธุ์''' <br>  | ||
| แถว 14: | แถว 14: | ||
'''อุปนิสัยและอาหาร''' <br>  | '''อุปนิสัยและอาหาร''' <br>  | ||
| − | พบตามป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบชื้น ป่าดงดิบแล้ง ป่าชายเลน ป่าละเมาะที่ค่อนข้างชื้น ตั้งแต่พื้นราบจนกระทั่งความสูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ไม่ค่อยพบในป่าหรือบริเวณที่ค่อนข้าง แห้งแล้งซึ่งพบนกกระจิบธรรมดา มักพบอยู่โดดเดี่ยวหรือเป็นคู่ มักเกาะตามพุ่มไม้หรือพืชต่าง ๆ ทำให้ไม่ค่อยเห็นตัว นอกจากได้ยินเสียงร้อง “กริ-ริ-ริ” ซึ่งแตกต่างจากนกกระจิบธรรมดาชัดเจน   | + | พบตามป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบชื้น ป่าดงดิบแล้ง ป่าชายเลน ป่าละเมาะที่ค่อนข้างชื้น ตั้งแต่พื้นราบจนกระทั่งความสูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ไม่ค่อยพบในป่าหรือบริเวณที่ค่อนข้าง แห้งแล้งซึ่งพบนกกระจิบธรรมดา มักพบอยู่โดดเดี่ยวหรือเป็นคู่ มักเกาะตามพุ่มไม้หรือพืชต่าง ๆ ทำให้ไม่ค่อยเห็นตัว นอกจากได้ยินเสียงร้อง “กริ-ริ-ริ” ซึ่งแตกต่างจากนกกระจิบธรรมดาชัดเจน อาหาร ได้แก่ แมลงและตัวหนอน อาจกินน้ำหวานดอกไม้บางชนิดด้วย  | 
'''การผสมพันธุ์'''<br>    | '''การผสมพันธุ์'''<br>    | ||
| แถว 27: | แถว 27: | ||
'''กฎหมาย''' <br>  | '''กฎหมาย''' <br>  | ||
กฎหมายจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง  | กฎหมายจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง  | ||
| + | |||
| + | '''ลิงค์ข้อมูลเพิ่มเติม''' <br>  | ||
| + | [https://www.youtube.com/watch?v=MOzuHIVeXpw นกกระจิบคอดำ]   | ||
----  | ----  | ||
<center>[[ไฟล์:Orthotomus atrogularis02.jpg]]  [[ไฟล์:Orthotomus atrogularis03.jpg]]</center>     | <center>[[ไฟล์:Orthotomus atrogularis02.jpg]]  [[ไฟล์:Orthotomus atrogularis03.jpg]]</center>     | ||
รุ่นปัจจุบัน เมื่อ 13:52, 17 กุมภาพันธ์ 2563
วงศ์ :  Cisticolidae
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Orthotomus atrogularis Temminck, 1836.
ชื่อสามัญ : : Dark-necked Tailorbird
ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่นๆ : Black-necked Tailorbird
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Orthotomus atrogularis ชื่อชนิดมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ atr, -i หรือ ater แปลว่าสีดำ และ gularis (gul, =a) แปลว่าคอหอย ความหมายคือ “นกที่มีคอหอยสีดำ” พบครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย ทั่วโลกมี 10 ชนิดย่อย ประเทศไทยพบ 2 ชนิดย่อย คือ Orthotomus atrogularis atrogularis Temminck ที่มาและความหมายของชื่อชนิดย่อยเช่นเดียวกับชนิด และ Orthotomus atrogularis nitidus Hume ชื่อชนิดย่อยมาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ nitid แปลว่าส่องแสงหรือสวยงาม ความหมายคือ “นกที่มีสีสดใสสวยงาม” พบครั้งแรกที่เมืองตะนาวศรี ทางตอนใต้ของประเทศพม่า
กระจายพันธุ์ 
ตั้งแต่สิกขิมจนถึงจีนด้านตะวันตกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกาะสุมาตรา เกาะบอร์เนียว และฟิลิปปินส์
ลักษณะทั่วไป 
เป็นนกขนาดเล็กมาก (11 ซม.) แตกต่างจากนกกระจิบธรรมดาโดยขนคลุมโคนขนหางมานล่างสีเหลือง บางครั้งลำตัวด้านบนสีเขียวแกมเหลืองเข้มกว่าในห้องปฏิบัติการจะเห็นขอบปีกเป็นสีเหลือง ตัวเมียและตัวไม่เต็มวัยคล้ายกับนกกระจิบธรรมดา ส่วนตัวผู้บริเวณคอหอยตอนล่างและด้านข้างของคอมีสีออกดำ หัวตาและกระหม่อมสีน้ำตาลแดง ท้ายทอยสีน้ำตาลแดงหรือเขียวแกมเหลือง
อุปนิสัยและอาหาร 
พบตามป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบชื้น ป่าดงดิบแล้ง ป่าชายเลน ป่าละเมาะที่ค่อนข้างชื้น ตั้งแต่พื้นราบจนกระทั่งความสูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ไม่ค่อยพบในป่าหรือบริเวณที่ค่อนข้าง แห้งแล้งซึ่งพบนกกระจิบธรรมดา มักพบอยู่โดดเดี่ยวหรือเป็นคู่ มักเกาะตามพุ่มไม้หรือพืชต่าง ๆ ทำให้ไม่ค่อยเห็นตัว นอกจากได้ยินเสียงร้อง “กริ-ริ-ริ” ซึ่งแตกต่างจากนกกระจิบธรรมดาชัดเจน อาหาร ได้แก่ แมลงและตัวหนอน อาจกินน้ำหวานดอกไม้บางชนิดด้วย
การผสมพันธุ์
 
ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูร้อนและต้นฤดูฝนระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน ลักษณะรังไม่แตกต่างจากรังนกกระจิบธรรมดา แต่มักใช้ใบไม้หรือใบพืชเพียงใบเดียวโอบเข้าหากันแล้วใช้ใยแมงมุมเย็บหรือเชื่อมขอบใบให้ติดกันเป็นรูปกระเปาะ จากนั้นรองพื้นรังด้วยดอกหญ้าหรือใบไม้แห้ง ชีววิทยาการสืบพันธุ์ด้านอื่นไม่แตกต่างจากนกกระจิบธรรมดา เป็นนกอีกชนิดหนึ่งที่มักถูกนกอีวาบตั๊กแตน และนกคัดคขนาดเล็กแอบมาวางไข่ให้ฟักไข่และเลี้ยงดูลูกอ่อนแทน
ไข่ 
รังมีไข่ 3-5 ฟอง โดยพบ 4 ฟองบ่อยที่สุด ขนาดของไข่โดยเฉลี่ย 11.4x15.4 มม. 
สถานภาพ 
เป็นนกประจำถิ่น พบบ่อยและปริมาณมาก ชนิดย่อย nitidus พบทุกภาค ยกเว้นภาคใต้ ชนิดย่อย atrogularis พบทางภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป
กฎหมาย 
กฎหมายจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
ลิงค์ข้อมูลเพิ่มเติม 
นกกระจิบคอดำ 
  
แหล่งที่มาของภาพ
http://www.oknation.net/blog/home/user_data/album_data/201205/24/50639/images/455872.jpg
http://www.oknation.net/blog/home/user_data/album_data/201205/24/50639/images/455875.jpg
https://dktnfe.com/web59/wp-content/uploads/2014/08/darknecked_tailorbird_copy2.jpg
