ข่า

จาก ระบบฐานข้อมูลพืชสมุนไพรไทย อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
Galanga.png

วงศ์ : ZINGIBERACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Alpinia galanga (L.) Willd.
ชื่อสามัญ : Galanga, Greater galangal, False galangal
ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่น ๆ : สะเอเชย, เสะเออเคย, ข่าหยวก, ข่าหลวง, กฎุกกโรหินี

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น : ข่าเป็นไม้ล้มลุก สูง 1.5 - 2 เมตรอยู่เหนือพื้นดิน เหง้ามีข้อและปล้องชัดเจน เนื้อในสีเหลืองและมีกลิ่นหอมเฉพาะ
ใบ : ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปใบหอก รูปวงรีหรือเกือบขอบขนาน กว้าง 7 - 9 ซม. ยาว 20 - 40 ซม.
ดอก : เป็นช่อ ออกที่ยอด ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาว โคนติดกันเป็นหลอดสั้นๆ ปลายแยกเป็น 3 กลีบ กลีบใหญ่ที่สุดมีริ้วสีแดง ใบประดับรูปไข่
ผล : เป็นผลแห้งแตกได้ ทรงกลม
การขยายพันธุ์ : การปลูกข่า ใช้วิธีการปักดำ นำเหง้าพันธ์ุข่ามาปักลงหลุมที่เตรียมดินไว้ สำหรับหลุมละ 3 เหง้า ระยะห่าง ประมาณ 1 เมตร ต่อหลุม ข่าสามารถแตกหน่อได้มากถึง 1500 กอ ให้ผลผลิตที่ดี

สรรพคุณ

1. ช่วยให้เจริญอาหาร (ข่าหลวง)
2. ช่วยบำรุงร่างกาย (เหง้า)
3. ช่วยบำรุงธาตุไฟ (หน่อ)
4. ข่ามีสาร 1 - acetoxychavicol acetate (ACA) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งจากการเหนี่ยวนำของสารก่อมะเร็ง จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งไปด้วยในตัว (เหง้า)
5. มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง (สารสกัดจากเหง้า)
6. สารสกัดจากเหง้ามีฤทธิ์ช่วยช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด (สารสกัดจากเหง้า)
7. ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ (เหง้าแก่, สารสกัดจากเหง้า)
8. ช่วยขับเลือดลมให้เดินสะดวก ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายให้ดีขึ้น (ราก)
9. น้ำมันหอมระเหยจากข่ามีประโยชน์อย่างมากต่อระบบทางเดินหายใจ จึงมีส่วนช่วยแก้อาการหวัด ไอ และเจ็บคอได้เป็นอย่างดี (สารสกัดจากเหง้า)
10. ช่วยแก้ลมแน่นหน้าอก (หน่อ)
11. ช่วยแก้ไข้สันนิบาตหน้าเพลิง (เหง้าแก่)
12. ข่าสรรพคุณทางยาช่วยแก้เสมหะ (เหง้า, ราก)
13. ช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน เมารถเมาเรือ ด้วยการใช้เหง้าข่าแก่สด ยาวประมาณ 1 นิ้วฟุตนำมาตำจนละเอียดแล้วเติมน้ำปูนใส ใช้น้ำยาดื่มครั้งละครึ่งแก้ว หลังอาหาร วันละ 3 เวลา (เหง้า)
14. ผงจากผลแห้งสามารถนำมาใช้รักษาอาการปวดฟันได้ ด้วยการนำผลไปบดแล้วนำมาทาบริเวณที่ปวด (ผลข่า)
15. ใช้เป็นยาแก้ท้องขึ้น ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง ท้องเดิน ด้วยการใช้เหง้าข่าแก่สด ยาวประมาณ 1 นิ้วฟุต นำมาตำจนละเอียดแล้วเติมน้ำปูนใส ใช้น้ำยาดื่มครั้งละครึ่งแก้ว หลังอาหาร วันละ 3 เวลา (เหง้า)
16. ดอกข่าใช้รับประทานช่วยแก้อาการท้องเสียได้ (ดอก)
17. ช่วยขับลมในลำไส้ ด้วยการใช้เหง้าข่าแก่สด ยาวประมาณ 1 นิ้วฟุต นำมาตำจนละเอียดแล้วเติมน้ำปูนใส ใช้น้ำยาดื่มครั้งละครึ่งแก้ว หลังอาหาร วันละ 3 เวลา (เหง้า)
18. ข่ามีสรรพคุณช่วยแก้บิด ปวดมวนท้อง ลมป่วง ด้วยการใช้เหง้าข่าแก่สด ยาวประมาณ 1 นิ้วฟุต นำมาตำจนละเอียดแล้วเติมน้ำปูนใส ใช้น้ำยาดื่มครั้งละครึ่งแก้ว หลังอาหาร วันละ 3 เวลา (เหง้า)
19. ช่วยรักษาโรคท้องร่วง (ผลข่า)
20. ช่วยแก้อาการอาหารเป็นพิษ (เหง้า)
21. เหง้าข่าแก่ช่วยย่อยอาหาร ช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย (เหง้าแก่, ผลข่า)
22. มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ (เหง้า)
23. ช่วยยับยั้งแผลในกระเพาะอาหาร (เหง้า)
24. ช่วยทำลายสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ (สารสกัดจากเหง้า)
25. ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ (สารสกัดจากเหง้า)
26. ช่วยขับน้ำดี (เหง้า)
27. ช่วยแก้ดีพิการ (ข่าหลวง)
28. ช่วยขับเลือด ขับน้ำคาวปลา ขับรก ด้วยการใช้เหง้านำมาตำกับมะขามเปียกและเกลือ ให้ผู้หญิงรับประทานหลังคลอด (เหง้า)
29. ใช้เป็นยารักษาแผลสด (สารสกัดจากเหง้า)
30. ช่วยลดอาการอักเสบ (เหง้า)
31. สารสกัดจากเหง้ามีฤทธิ์ช่วยต้านอาการแพ้ต่าง ๆ (สารสกัดจากเหง้า)
32. ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย (สารสกัดจากเหง้า)
33. ใช้รักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ (เหง้า)
34. ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา (สารสกัดจากเหง้า)
35. ช่วยฆ่าพยาธิ (น้ำมันหอมระเหย, ใบ)
36. ช่วยรักษากลากเกลื้อน ด้วยการใช้เหง้าแก่เท่าหัวแม่มือ นำมาตำจนละเอียดผสมกับเหล้าโรง ใช้ทาบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อนบ่อย ๆ จนกว่าจะหาย (เหง้า, ใบ)
37. ช่วยแก้ฝีดาษ (ดอกของข่าลิง)
38. ใช้เป็นยาแก้ลมพิษ ด้วยการใช้เหง้าข่าแก่ ๆ ที่สด 1 แง่ง นำมาตำจนละเอียด แล้วเติมเหล้าโรงพอแฉะ และใช้ทั้งน้ำและเนื้อนำมาทาบริเวณที่เป็นลมพิษบ่อย ๆ จนกว่าอาการจะดีขึ้น (เหง้า)
39. ช่วยแก้โรคน้ำกัด ด้วยการใช้เหง้าแก่สดขนาดเท่าหัวแม่มือ นำมาตำให้ละเอียดแล้วเติมเหล้าโรงพอท่วม ทิ้งไว้ 2 วัน แล้วใช้สำลีชุบแล้วทาบริเวณที่เป็นวันละ 3 รอบ (เหง้า)
40. ช่วยแก้ฟกช้ำ ข้อเท้าแพลง เคล็ดขัดยอก ด้วยการใช้เหง้าแก่ตำละเอียด นำมาพอกบริเวณที่มีอาการ หรือตำให้ละเอียดแล้วนำไปแช่กับเหล้าขาวหรือน้ำส้มสายชูทิ้งไว้ 1 วัน กรองเอาแต่น้ำมาใช้ทาบริเวณที่เป็น (เหง้า)
41. ช่วยแก้ตะคริว (เหง้า)
42. ช่วยแก้เหน็บชา (เหง้า)
43. ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ อาการปวดบวมตามข้อ ด้วยการใช้ต้นข่าแก่นำมาตำผสมกับน้ำมันมะพร้าวแล้วทาแก้อาการ (ต้นแก่, ใบ, สารสกัดจากเหง้า)
44. ดอกและลำต้นอ่อนสามารถใช้รับประทานเป็นผักสดได้ (ลำต้น, ดอก)
45. เหง้าของข่าลิง เอามาต้มน้ำแล้วนำน้ำมาผสมกับสุรา จะช่วยเพิ่มดีกรีของสุรา ทำให้ดีกรีไม่ตก สุรามีกลิ่นฉุนแรงมากขึ้น (เหง้าของข่าลิง)
46. ช่วยแก้กามโรค (เหง้าของข่าลิง)
47. ช่วยบำรุงสมรรถภาพทางเพศ
48. สารสกัดจากเหง้าข่ามีฤทธิ์ช่วยฆ่าแมงลงวันได้ (สารสกัดจากเหง้า)
49. ช่วยไล่แมลง ด้วยการใช้เหง้านำมาตำให้ละเอียดเพื่อเอาน้ำมันหอมระเหย แล้วนำไปวางในบริเวณที่มีแมลง (เหง้า)
50. ข่ามีเหง้าที่มีน้ำมันหอมระเหย มีกลิ่นหอม สามารถใช้ดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ กุ้ง หอย ปู ปลาได้เป็นอย่างดี (สารสกัดจากเหง้า)
51. ในบางประเทศใช้ข่าเพื่อช่วยระงับกลิ่นปากและใช้ดับกลิ่นกาย
52. นำมาใช้ประกอบอาหารได้หลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ต้มข่าไก่ ต้มยำกุ้ง ต้มยำปลา แกงมัสมั่น แกงเทโพ แกงไตปลา ผัดเผ็ด ลาบ ฯลฯ
53. มีการนำข่าไปผลิตหรือแปรรูปเป็นเครื่องดื่มหรือชา ทำลูกประคบ สเปรย์ดับกลิ่น ฯลฯ

ประโยชน์

1.รักษาท้องขึ้น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม แก้ท้องเดิน (ที่เรียกโรคป่วง) แก้บิด อาเจียน ปวดท้องใช้เหง้าข่าแก่สด ยาวประมาณ 1 - 1 ½ นิ้วฟุต (หรือประมาณ 2 องคุลี) ตำให้ละเอียด เติมน้ำปูนใส ใช้น้ำยาดื่ม ครั้งละ ½ ถ้วยแก้ว วันละ 3 เวลา หลังอาหาร
2.รักษาลมพิษ ใช้เหง้าข่าแก่ๆ ที่สด 1 แง่ง ตำให้ละเอียด เติมเหล้าโรงพอให้แฉะๆ ใช้ทั้งเนื้อและน้ำ ทาบริเวณที่เป็นลมพิษบ่อยๆ จนกว่าจะดีขึ้น
3.รักษากลากเกลื้อน โรคผิวหนัง ใช้เหง้าข่าแก่ เท่าหัวแม่มือ ตำให้ละเอียดผสมเหล้าโรง ทาที่เป็นโรคผิวหนัง หลายๆ ครั้งจนกว่าจะหาย

คำแนะนำ

1. การรับประทานข่าในอาหารทั่วไปนั้นปลอดภัยต่อสุขภาพ ส่วนการรับประทานหรือการนำมาใช้เพื่อบำรุงหรือรักษาโรคก็สามารถใช้ได้ แต่ควรคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้ด้วย โดยควรใช้ในปริมาณที่พอดีและไม่ควรใช้ต่อเนื่องนานเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยารักษาโรคชนิดใดอยู่ก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ข่า อาหารเสริม และสมุนไพรอื่นๆ ทุกครั้ง
3. น้ำมันหอมระเหยจากเหง้าข่า มีความเป็นพิษ หากบริโภคในปริมาณมากเกินไป ทำให้เป็นพิษต่อร่างกาย
4. ข่า ทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังได้ ทำให้มีอาการแสบร้อนผิวหนัง

ลิงค์ข้อมูลเพิ่มเติม

https://www.youtube.com/watch?v=1oXThKSBOH8

>>> ข่า <<<


Galanga1.png Galanga2.png Galanga3.png Galanga4.png

แหล่งที่มาของภาพ
http://www.ranong.doae.go.th/ka-kaset/k1.jpg
https://esan108.com/main/wp-content/uploads/2017/01/ต้นข่า.jpg
http://www.biogang.net/upload_img/biodiversity/biodiversity-182287-2.jpg
https://medthai.com/images/2014/08/ดอกข่าตาแดง.jpg
https://prayod.com/wp-content/uploads/2019/10/หัวข่า.jpg