มะเกี๋ยง

จาก ระบบฐานข้อมูลพืชสมุนไพรไทย อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
Sunrose.png

วงศ์ : MYRTACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cleistocalyx nervosum var. paniala
ชื่อสามัญ : Sunrose Willow, Creeping Water Primrose
ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่น ๆ : หว้าน้ำ, หว้าส้ม

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น : เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นสูงประมาณ 10 - 15 เมตร หรือมากกว่า ขนาดลำต้นเมื่อมีอายุมากจะมีขนาดเส้นรอบวงได้ถึง 1.5 เมตร ลำต้นแตกกิ่งมาก เปลือกลำต้นมีสีเทาหรือน้ำตาลอมเทา เปลือกแก่ด้านนอกหลุดล่อนออกเป็นแผ่น เมื่อใช้มีดสับเปลือกด้านในจะมีสีน้ำตาลอมชมพู แต่เมื่อแห้งจะมีสีน้ำตาล ส่วนเนื้อไม้ค่อนข้างแข็ง มีสีขาวนวลหรือเหลืองอ่อน และมีเสี้ยนค่อนข้างมาก
ใบ : ออกเป็นใบเดี่ยวตรงข้ามกันเป็นคู่บนกิ่งย่อย จำนวน 4 - 6 คู่ ในแต่ละกิ่งย่อย ใบมีรูปรีถึงรูปหอก ขนาดใบกว้าง 8 - 10 เซนติเมตร ยาว 15 - 25 เซนติเมตร แผ่นใบ และขอบใบเรียบ ใบมีลักษณะเป็นคลื่น และเป็นมันเล็กน้อย แผ่นใบด้านบนมีสีเขียวเข้ม ส่วนด้านล่างมีสีเขียวอ่อน ก้านใบยาว 1.5 - 3 เซนติเมตร มีเส้นกลางใบด้านบนเป็นร่องตื้น ส่วนเส้นกลางใบด้านล่างนูนขึ้น มีเส้นแขนงใบแยกออกซ้ายขวาสลับกัน ข้างละ 7 - 15 เส้น ภายในใบมีจุดสีเหลืองกระจายไปทั่ว ใบอ่อน มีสีเขียวอมแดง ใบแก่มีสีเขียว
ดอก : เป็นดอกสมบูรณ์เพศ แทงออกเป็นช่อ บริเวณปลายกิ่ง แต่ละกิ่งมีจำนวน 5 - 15 ช่อดอก ช่อดอกยาว 5 - 10 เซนติเมตร ช่อดอกมีดอกประมาณ 20 - 80 ดอก ดอกมีสีขาวอมเหลือง มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ และมีกลีบดอก 4 กลีบ ขนาด 0.35 - 0.45 เซนติเมตรมีเกสรตัวผู้ประมาณ 150 - 300 อัน มีรังไข่อยู่บริเวณฐานดอก ดอกมะเกี๋ยงจะเริ่มออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงหลังที่มีการแตกใบใหม่ และดอกจะบานหลังจากแทงตาดอกประมาณ 2 เดือน
ผล : มีลักษณะเป็นรูปไข่คล้ายผลหว้า แต่เล็ก และป้อมกว่าเล็กน้อย ผลมีเปลือกบาง ผลอ่อนมีสีเขียวอมเหลือง และค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมชมพู ต่อมาเป็นสีแดงเมื่อห่าม เมื่อสุกเป็นสีแดงม่วง และสุกมากเป็นสีดำ ขนาดผลประมาณ 1 - 2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 1.5 - 2.5 เซนติเมตร เนื้อผลมีสีขาว หนาประมาณ 3 - 5 มิลลิเมตร เมื่อรับประทานจะให้รสเปรี้ยวอมฟาดเล็กน้อย และมีกลิ่นหอม ตรงกลางผลมีเมล็ด 1 เมล็ด ผลมะเกี๋ยงเริ่มสุก หลังดอกบาน ประมาณเกือบ 3 เดือน และสามารถเก็บผลได้ในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน มีผลต่อช่อประมาณ 5 - 10 ผล และจะเริ่มติดผลได้เมื่อต้นมีอายุประมาณ 3 - 5 ปี
การขยายพันธุ์ : ได้โดยการเพาะเมล็ด และการตอนกิ่ง แต่ในปัจจุบันนิยมใช้วิธีเพาะเมล็ดมากกว่า เพราะมะเกี๋ยงเป็นไม้ยืนต้นที่มีความสูงกว่า 10 เมตร ผู้ที่ปลูกจึงต้องการให้ต้นมะเกี๋ยงมีรากแก้วที่ยึดเกาะแน่นไม่ล้มง่าย ส่วนวิธีการปลูกก็สามารถทำได้ เช่นเดียวกับการปลูกไม้ยืนต้นชนิดอื่นๆ

สรรพคุณ

1. สารในกลุ่มต่างของผลมะเกี๋ยงออกฤทธิ์จับกับสารกระตุ้นการเกิดมะเร็ง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งได้
2. สารสกัดจากผลมะเกี๋ยงช่วยในการลดริ้วรอย ลดฝ้า และจุดด่างดำ การใช้ง่ายๆด้วยการนำผลมะเกี๋ยงมาฝานเป็นแผ่นใช้ทาบริเวณจุดด่างดำเป็นประจำ
3. ผลมะเกี๋ยงมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ช่วยลดการเสื่อมของเซลล์ ช่วยชะลอความแก่
4. ผลมะเกี๋ยงมีแคลเซียมสูง ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน และช่วยให้ฟันแข็งแรง
5. แคลเซียมช่วยควบคุมการหดตัว ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
6. แคลเซียมช่วยการทำงานของหัวใจให้เป็นปกติ
7. วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา
8. วิตามินบี 1 ช่วยบำรุงประสาท และป้องกันโรคเหน็บชา
9. วิตามินบี 2 ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก
10. วิตามินอีช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ
11. วิตามินอีช่วยป้องกันโรคต้อกระจก
12. วิตามินอีช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบ ชะลอการแก่ก่อนวัย
13. วิตามินอีป้องกันโรคพาร์กินสัน
14. วิตามินอีช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเซลล์ประสาท
15. วิตามินอีช่วยให้เลือดแข็งตัว
16. วิตามินซีเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานผิดปกติ
17. วิตามินซีช่วยป้องกันการเป็นโรคลักปิดลักเปิด
18. นำเปลือกมาต้มน้ำดื่มแก้อาการท้องเสีย
19. น้ำต้มจากเปลือกใช้อาบแก้โรคผิวหนัง
20. นำเปลือกที่ถากจากต้นใหม่ๆทาแผล ช่วยรักษาแผลให้หายเร็ว

ประโยชน์

1. ผลมะเกี๋ยงใช้รับประทานเป็นผลไม้ ให้รสเปรี้ยวอมหวาน
2. ผลดิบมะเกี๋ยงนำมาใส่อาหารประเภทต้มยำ ให้รสเปรี้ยวจัดจ้าน
3. ผลมะเกี๋ยงใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร
4. ผลมะเกี๋ยงใช้สกัดทำสีผสมอาหาร ซึ่งให้สีม่วงแดง
5. ใบมะเกี๋ยงนำมาต้มเป็นน้ำย้อมผ้า ให้สีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลเข้ม
6. เปลือกมะเกี๋ยงนำมาต้มน้ำย้อมผ้า ให้สีน้ำตาลอมแดง
7. เมล็ดมะเกี๋ยงใช้สกัดน้ำมันสำหรับใช้ประกอบอาหารหรือใช้เป็นส่วนผสมเครื่องสำอาง และน้ำหอม
8. เนื้อไม้มะเกี๋ยงมีลักษณะค่อนข้างแข็ง ใช้แปรรูปเป็นไม้ปูพื้น ไม้ชายคา ไม่วงกบ รวมถึงแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
9. กิ่งนำมาทำเป็นฟืน
10. ต้นมะเกี๋ยงตามป่าหรือหัวไร่ปลายนาเป็นประโยชน์ต่อสัตว์ป่าในด้านเป็นแหล่งอาหารสำคัญ

คำแนะนำ

1. สำหรับการรับประทานผลสุกแบบสดๆ ของมะเกี๋ยง หรือรับประทานในรูปแบบอาหารน่าจะมีประโยชน์และความปลอดภัยมากกว่าการบริโภคแบบแปรรูปอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตาม หากรับประทานมากจนเกินไปอาจทำให้ท้องเสีย หรือท้องเดินได้ เพราะผลสุกของมะเกี๋ยงมีรสเปรี้ยวผสมอยู่ ส่วนการรับประทานเพื่อหวังผลในการรักษาป้องกันโรค ควรรับประทานแต่พอดี ไม่ควรใช้เกินขนาดที่ระบุไว้ในตำรายาต่างๆ และไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจนเกินไปเพาะอาจส่งผลต่อสุขภาพได้

ลิงค์ข้อมูลเพิ่มเติม

https://www.youtube.com/watch?v=8vjukC7dEJ0

>>> มะเกี๋ยง <<<


Sunrose1.png Sunrose2.png Sunrose3.png Sunrose4.png

แหล่งที่มาของภาพ
https://puechkaset.com/wp-content/uploads/2016/06/มะเก๋ยง.png
https://f.ptcdn.info/311/043/000/o8cjpfmtvQ116wTPbE5-o.jpg
https://puechkaset.com/wp-content/uploads/2016/06/ใบมะเกี๋ยง.jpg
https://puechkaset.com/wp-content/uploads/2016/06/ดอกมะเกี๋ยง.jpg
https://puechkaset.com/wp-content/uploads/2016/06/ผลมะเกี๋ยง.jpg