คำฝอย
วงศ์ : ASTERACEAE หรือ COMPOSITAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Carthamus tinctorius L.
ชื่อสามัญ : Safflower, False saffron, Saffron thistle
ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่น ๆ : คำยอง, คำหยอง, คำหยุม, คำยุ่ง, คำฝอย, ดอกคำ, หงฮัว, ดอกคำฝอย, คำทอง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น : มีถิ่นกำเนิดในตะวันออกกลาง ในประเทศไทยบ้านเรามีแหล่งผลิตดอกคำฝอยที่สำคัญอยู่ทางภาคเหนือ เพาะปลูกกันมากในอำเภอพร้าว อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย โดยจัดเป็นไม้ล้มลุก มีความสูงประมาณ 40 - 130 เซนติเมตร มีลำต้นเป็นสัน แตกกิ่งก้านมาก เป็นพืชที่มีอายุสั้น ทนแล้ง เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีระดับความสูงต่ำกว่า 1,000 เมตร ชอบดินร่วนปนทรายหรือดินที่มีการระบายน้ำได้ดี โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการงอกจะอยู่ระหว่าง 5 - 15 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิที่เหมาะสมในช่วงออกดอกคือ 24 - 32 องศาเซลเซียส ใช้ระยะเวลาการปลูกประมาณ 80 - 120 วันจนเก็บเกี่ยว
ใบ : มีใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปวงรี ลักษณะของใบคล้ายรูปหอกหรือรูปขอบขนาน ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ปลายเป็นหนามแหลม ใบมีความกว้างประมาณ 1 - 5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3 - 12 เซนติเมตร
ดอก : ออกดอกรวมกันเป็นช่ออัดแน่นบนฐานดอกที่ปลายยอด มีดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก ดอกคำฝอยมีลักษณะกลมคล้ายดอกดาวเรือง เมื่อดอกคำฝอยบานใหม่ ๆ จะมีกลีบดอกสีเหลืองแล้วจึงค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีส้ม เมื่อแก่จัดดอกจะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง ที่ดอกมีใบประดับแข็งเป็นหนามรองรับช่อดอกอยู่
ผล : ลักษณะของผลคล้ายรูปไข่หัวกลับ ผลเบี้ยว ๆ มีสีขาวงาช้างปลายตัด มีสัน 4 สัน ขนาดของผลยาวประมาณ 0.6 - 0.8 เซนติเมตร ผลเป็นผลแห้งไม่แตก ด้านในผลมีเมล็ดเป็นรูปสามเหลี่ยมยาวรี เปลือกแข็ง มีสีขาว ขนาดเล็ก เมื่อผลแก่แห้งเมล็ดจะไม่แตกกระจาย
การขยายพันธุ์ : การเพาะปลูกแบบหว่าน การเพาะเป็นแถว ด้วยการหยอดเมล็ด ระยะระหว่างแถว 30 - 60 ซม.
สรรพคุณ
- 1. สมุนไพรดอกคําฝอย สรรพคุณช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด เนื่องจากดอกคำฝอยมีกรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) อยู่มาก ซึ่งกรดชนิดนี้จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับไขมันในเลือดและขับออกทางปัสสาวะและทางอุจจาระ จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรับประทานหัวหอมหรือกระเทียมที่มีสรรพคุณเช่นเดียวกัน ด้วยการใช้ดอกคำฝอยแห้งประมาณ 2 หยิบมือ (2.5 กรัม) นำมาชงกับน้ำร้อนครึ่งถ้วยแล้วใช้ดื่ม หรืออีกสูตรให้ใช้ดอกคำฝอย 1 หยิบมือและดอกเก๊กฮวย 10 ดอก ผสมด้วยน้ำสะอาด 500 cc. แล้วเคี่ยวจนงวดประมาณ30 นาที นำมาดื่มเป็นน้ำชาครั้งละ 1 ถ้วยแก้ววันละ 2 - 3 ครั้ง และสำหรับผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงกว่าปกติก็ให้รับประทานติดต่อกันสัก 3 - 7 วัน และถ้าต้องการเพิ่มรสชาติหรือดับรสขื่นหรือเฝื่อน ก็ให้เติมน้ำตาลทรายขาวเข้าไป 2 - 3 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ถ้วยแก้ว (ดอก, กลีบที่เหลือจากผล, น้ำมันจากเมล็ด)
- 2. ดอกคำฝอย ลดความอ้วน ! ด้วยการใช้ดอกประมาณ 5 กรัมนำมาชงกับน้ำร้อน 1 แก้ว ใช้ดื่มก่อนอาหารเช้าและเย็น (ดอก)
- 3. ช่วยบำรุงประสาทและระงับประสาท (ดอก, กลีบที่เหลือจากผล)
- 4. ช่วยรักษาโรคฮิสทีเรีย (Hysteria) หรือโรควิตกกังวลอย่างหนึ่ง หรือโรคขาดความอบอุ่น (ดอก)
- 5. ช่วยขยายหลอดเลือด ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น ทำให้มีออกซิเจนเข้าถึงเซลล์ต่าง ๆ ได้ดี (ดอก)
- 6. ช่วยบำรุงโลหิต แก้โลหิตเป็นพิษ และช่วยฟอกโลหิต (ดอก, เกสร, กลีบที่เหลือจากผล)
- 7. ช่วยสลายลิ่มเลือด จะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ชอบกินของหวาน เพราะจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เลือดเหนียวข้นจับตัวกันเป็นลิ่มเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ไม่ดี โดยดอกคำฝอยจะช่วยสลายลิ่มเลือดให้เล็กลง ช่วยป้องกันไม่ให้เลือดเกาะตัวกันเป็นลิ่มเลือด (ดอก)
- 8. ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยทำให้มีเลือดไปเลี้ยงที่หัวใจมากยิ่งขึ้น ทำให้หัวใจแข็งแรง (ดอก, กลีบที่เหลือจากผล)
- 9. ช่วยแก้โรคลมเนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก (เมล็ด)
- 10. ช่วยรักษาอาการปวดหัวใจอันเนื่องมาจากเลือดและซี่ตับ หรือเลือดลมเดินไม่สะดวก (ส่วนมากจะใช้ร่วมกับสมุนไพรตังเซิน ชวนเจียง อู่หลินจือ)
- 11. ช่วยขับเหงื่อ (ดอก)
- 12. ช่วยรักษาอาการไข้หลังคลอดของสตรี (ดอก)
- 13. ดอกช่วยแก้ไข้ในเด็ก (ดอก)
- 14. ช่วยแก้หวัดน้ำมูกไหล (ดอก)
- 15. เมล็ดใช้เป็นยาขับเสมหะ (เมล็ด)
- 16. เมล็ดหรือดอกใช้เป็นยาถ่าย เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ (ดอก, เมล็ด)
- 17. ช่วยรักษาท้องเป็นเถาดัน (ดอก)
- 18. เมล็ดใช้เป็นยาขับปัสสาวะ (เมล็ด)
- 19. ช่วยบำรุงโลหิตประจำเดือนของสตรี ช่วยขับระดูโลหิตประจำเดือนของสตรี ช่วยกระจายเลือดแก้ประจำเดือนคั่งค้างมาไม่เป็นปกติ (ดอก, เกสร, เมล็ด, กลีบที่เหลือจากผล)
- 20. ช่วยระงับอาการปวดประจำเดือนของสตรี (ดอก)
- 21. ช่วยแก้อาการปวดมดลูกและลดอาการอักเสบของมดลูกในสตรี (เมล็ด)
- 22. แก้อาการตกเลือด อาการปวดท้องหลังคลอด น้ำคาวปลาไม่หมด (ดอก)
- 23. ช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย บำรุงน้ำเหลืองให้เป็นปกติ (ดอก, เกสร, กลีบที่เหลือจากผล)
- 24. ดอกและกลีบที่เหลือจากผลช่วยแก้ดีพิการ (ดอก, กลีบที่เหลือจากผล)
- 25. ดอกช่วยแก้ดีซ่าน (ดอก)
- 26. น้ำมันจากเมล็ดใช้ทารักษาโรคผิวหนังได้ (ดอก, เมล็ด, กลีบที่เหลือจากผล)
- 27. ช่วยแก้ฝี (น้ำมันจากเมล็ด)
- 28. ช่วยรักษาตาปลา ด้วยการใช้ดอกคำฝอยสดและตี้กู่ฝีในปริมาณที่เท่ากัน นำมาตำผสมรวมกัน แล้วใช้ปิดบริเวณที่เป็นตาปลา โดยเปลี่ยนยาวันละ 2 ครั้ง ไม่เกิน 5 วันก็จะดีขึ้น (ดอก)
- 29. ช่วยแก้อาการแสบร้อนตามผิวหนัง (ดอก, เกสร, กลีบที่เหลือจากผล)
- 30. น้ำมันจากเมล็ดใช้ทาแก้อาการปวดบวม ฟกช้ำดำเขียว รักษาโรคไขข้ออักเสบได้ หรือจะใช้ดอกนำมาต้มกับน้ำแช่เหล้า หรือใช้วิธีตำแล้วพอกก็ได้ (เมล็ด, ดอก)
- 31. ช่วยป้องกันแผลกดทับ ด้วยการใช้ดอกคำฝอยประมาณ 3 กรัมนำมาแช่กับน้ำพอประมาณจนน้ำเป็นสีแดง แล้วนำมาถูกบริเวณที่กดทับ โดยถูครั้งละ 10-15 นาที หากทำอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยป้องกันแผลกดทับได้ถึง 100% โดยไม่มีผลข้างเคียง (ดอก)
- 32. ช่วยรักษาแผลกดทับ ด้วยการนำดอกคำฝอย 500 กรัม มาต้มในน้ำ 7 ลิตรด้วยไฟปานกลางประมาณ 2 ชั่วโมง จนดอกคำฝอยเปลี่ยนเป็นสีขาว แล้วตักเอากากออกเหลือไว้แต่น้ำ เคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ ต่อไปจนน้ำเหนียวเป็นกาว หลังจากนั้นให้ทายาลงบนผ้าสะอาดที่ฆ่าเชื้อแล้ว แล้วเอาไปปิดบริเวณที่เป็นแผลกดทับ เปลี่ยนยาวันละ 1 - 2 ครั้ง โดยทำติดต่อกันประมาณ 1 อาทิตย์ แผลจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเอง (ดอก)
- 33. ดอกช่วยบำรุงคนเป็นอัมพาต (ดอก)
- 34. น้ำมันจากเมล็ดใช้ทาเป็นยาแก้อัมพาตและอาการขัดตามข้อต่าง ๆ ได้ (น้ำมันจากเมล็ด)
- 35. เมล็ดใช้ตำแล้วนำมาพอกบริเวณหัวหน่าว ช่วยแก้อาการปวดมดลูกหลังการคลอดบุตรได้ (เมล็ด)
- 36. ดอกใช้ต้มน้ำอาบเวลาออกหัด (ดอก)
- 37. ดอกคำฝอยมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย (ดอก, น้ำมันจากเมล็ด)
- 38. ในปากีสถานและอินเดีย ทุกส่วนของต้นคำฝอยนำมาขายเป็นสมุนไพรคําฝอยที่เรียกว่า "Pansari" ซึ่งมีสรรพคุณใช้รักษาโรคหลาย ๆ อย่าง และใช้เป็นยากระตุ้นทางเพศ (Aphrodisiac)
- 39. ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของคำฝอย ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยขยายหลอดเลือด ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด ลดอาการอักเสบ แก้แพ้ ช่วยต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งฟันผุ
ประโยชน์
- 1. ประโยชน์ของดอกคำฝอย ดอกคำฝอยแก่เมื่อนำมาชงกับน้ำร้อนแล้วกรอง จะได้น้ำสีเหลืองส้มที่มาจากสาร Safflower yellow สามารถนำมาใช้ในการแต่งสีอาหารที่ต้องการ เครื่องปรุงอาหาร เนยเทียม หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ หรือใช้ย้อมผ้าไหมและฝ้าย (แต่สีจะไม่คงทนเท่าไหร่และซีดง่าย) ทำสีย้อมผ้าให้เป็นสีเหลืองได้ แต่งสีเครื่องสำอาง และสามารถใช้แต่งสีข้าวได้อีกด้วย โดยใช้ดอกคำฝอยนำมาต้มกับข้าวโดยใช้อัตราส่วนข้าว 1 ถ้วยตวงต่อกลีบดอก 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำซุป 2 ถ้วยครึ่ง โดยต้มข้าวให้เดือดก่อน แล้วค่อยใส่กลีบดอกซึ่งอยู่ในถุงผ้า ต้มต่อจนน้ำหมดไป ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จะได้ข้าวที่มีสีเหลือง
- 2. น้ำมันจากเมล็ดที่สกัดโดยผ่านความร้อน สามารถใช้ผสมสีทาบ้าน ทำสบู่ น้ำมันชักเงา น้ำยาเคลือบผิว เคลือบหนังไม่ให้เปียกน้ำได้
- 3. ประโยชน์น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันดอกคำฝอยมีคุณสมบัติที่ทนความร้อนได้สูง จึงได้มีการนำน้ำมันดอกคำฝอยมาใช้ในการทอดอาหารและใช้ประกอบอาหารต่าง ๆ ได้
- 4. กากเมล็ดจากดอกคำฝอยที่เหลือจากการบีบน้ำมัน สามารถนำมาใช้เลี้ยงสัตว์และทำเป็นปุ๋ยได้
- 5. น้ำมันดอกคำฝอยชนิดที่บีบสกัดโดยไม่ผ่านความร้อนเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้ปรุงอาหาร
- 6. ต้นคําฝอย สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย เช่น ดอกคําฝอยแห้ง ยาแคปซูลดอกคำฝอย ชาดอกคำฝอย น้ำดอกคำฝอย น้ํามันดอกคําฝอย เป็นต้น
คำแนะนำ
- 1. แม้ว่าคำฝอยจะมีสรรพคุณที่หลากหลาย แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อระบบเลือดได้หากไม่รู้จักใช้ให้ถูกวิธี ซึ่งแพทย์แผนจีนมักจะใช้ดอกคำฝอยร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นอยู่เสมอ จะไม่ใช้เป็นยาเดี่ยว ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และไม่ควรใช้ในระยะยาว
- 2. โทษของดอกคำฝอย การรับประทานอย่างต่อเนื่องหรือในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะส่งผลทำให้โลหิตจางได้ มีผลทำให้มีเลือดน้อยลง มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย มีอาการวิงเวียนศีรษะ หรือกลายเป็นคนขี้โรคโดยไม่รู้ตัว
- 3. การรับประทานในปริมาณมากจนเกินไปอาจจะทำให้มีประจำเดือนมากกว่าปกติ และอาจทำให้มีอาการมึนงง หรือมีผดผื่นคันขึ้นตามตัวได้
- 4. สำหรับสตรีมีครรภ์ไม่ควรบริโภคสมุนไพรดอกคำฝอย เนื่องจากสมุนไพรชนิดนี้มีฤทธิ์เป็นยาบำรุงเลือดและช่วยขับประจำเดือน หากรับประทานหรือรับประทานในปริมาณมาก ๆ ก็อาจจะทำให้แท้งบุตรได้
- 5. ควรระมัดระวังเมื่อใช้ดอกคำฝอยร่วมกับยาในกลุ่มต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด (Anticoagulant)
ลิงค์ข้อมูลเพิ่มเติม
>>> คำฝอย <<<




แหล่งที่มาของภาพ
https://medthai.com/images/2013/09/ดอกคำฝอย.jpg
https://medthai.com/images/2013/09/ต้นคําฝอย.jpg
https://medthai.com/images/2013/09/ใบคำฝอย.jpg
https://dv.lnwfile.com/_/dv/_raw/1a/y5/ta.jpg
https://medthai.com/images/2013/09/เมล็ดคําฝอย.jpg