ทับทิม
วงศ์ : LYTHRACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Punica granatum L.
ชื่อสามัญ : Pomegranate
ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่น ๆ : พิลา, พิลาขาว, มะก่องแก้ว, มะเก๊าะ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น : ทับทิมจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก แต่มีอายุนานได้ถึง 100 ปี ลำต้นสูงประมาณ 2 - 4 เมตร ลำต้นแตกกิ่งตั้งแต่ระดับล่าง ลำต้นมีเปลือกบาง และติดแน่นกับแก่นไม้ ผิวลำต้นมีสีเทา และเป็นมันเงา ส่วนเนื้อไม้มีลักษณะแข็ง และเหนียว ยอดหรือกิ่งอ่อนมักเป็นเหลี่ยม และมีหนามยาว แต่หนามไม่แข็ง และไม่คม
ใบ : ใบทับทิมจัดเป็นใบเลี้ยงคู่ แทงออกสลับใบ ใบมีลักษณะเรียวยาวเหมือนหอก โคนใบมนแคบ ปลายใบแหลมสั้น ใบเรียบมีสีเขียวเข้ม และมันวาวจากสาร cutin ที่เคลือบไว้ ใต้ท้องใบมีสีอ่อนกว่าด้านบน และจะเห็นเส้นใบได้ชัด ใบกว้างประมาณ 1 - 2 ซม. และยาวประมาณ 2.5 - 6 ซม.
ดอก : ดอกทับทิมเป็นดอกสมบูรณ์เพศ อาจออกเป็นช่อ 3 - 5 ดอก หรือ เป็นดอกเดี่ยว แทงออกบริเวณปลายยอดตรงง่ามกิ่ง ดอกมีขนาดใหญ่ ขนาดประมาณ 2 - 3 ซม. ดอกประกอบด้วยกลีบเลี้ยง 5 - 6 กลีบ มีรูปร่างคล้ายหม้อ และกลีบดอก 6 กลีบ ปลายกลีบแยกออกจากกัน ดอกมีหลายสี เช่น สีขาว สีส้ม หรือ สีแดง ถัดมาตรงกลางเป็นเกสรตัวเมีย 1 อัน และเกสรตัวผู้จำนวนมาก ดอกสามารถผสมได้ในตัวเอง และผสมข้ามดอกจากต้นเดียวกันหรือคนละต้น มีระยะบานประมาณ 2 วัน
ผล : ผลทับทิมมีลักษณะกลม ขนาดผลประมาณ 8 - 10 ซม. เปลือกผลหนา ผิวเปลือกเกลี้ยง และเป็นมันวาว ผลสุกมีเปลือกสีเหลืองอมแดงหรือบางพันธุ์มีสีแดงอมชมพู เมื่อสุกมาก เมล็ดด้านในจะขยายทำให้เปลือกปริแตก ภายในผลมีเมล็ดที่ถูกแบ่งเป็นช่องด้วยเยื่อสีครีมอมเหลือง จำนวน 5 ช่อง แต่ละช่องมีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดมีเนื้อหุ้มที่ฉ่ำด้วยน้ำหวาน รูปทรงสี่เหลี่ยม เนื้อนี้ใช้รับประทาน มีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เนื้อเมล็ดที่ยังไม่สุกมีสีขาวอมชมพู และเมื่อผลสุกจะมีสีชมพูอมแดงหรือแดงเข้ม ส่วนเมล็ดที่เอาเนื้อออกแล้วจะมีลักษณะยาวรี ทั้งนี้ หลังจากติดผลจนถึงผลแก่เต็มที่จะใช้เวลาประมาณ 4 - 5 เดือน
การขยายพันธุ์ : การปลูกทับทิมเพื่อการค้าหรือปลูกจำนวนหลายต้นมักปลูกในแปลงใหญ่หรือปลูกแซมกับพืชชนิดอื่น เช่น สวนกล้วย สวนน้อยหน่า เป็นต้น ทั้งนี้ การปลูกทับทิม นิยมปลูกจากต้นกล้าที่เตรียมได้จากการเพาะเล็ด และการปักชำ
สรรพคุณ
- 1. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
- 2. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยในการชะลอวัย
- 3. น้ำทับทิมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ด้วยการนำน้ำทับทิมประมาณ 1 ช้อนชามาทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก
- 4. น้ำทับทิมช่วยเพิ่มความสดชื่น แก้กระหาย คลายร้อนได้เป็นอย่างดี
- 5. ช่วยระงับกลิ่นปากได้อีกด้วย
- 6. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บรรเทาอาการหวัด
- 7. ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด
- 8. ทับทับมีวิตามินซีสูงมาก และยังมีวิตามินเอ วิตามินอี และกรดโฟลิกอีกด้วย
- 9. ใบทับทิมใช้ในการประกอบพิธีต่าง ๆ ที่ใช้น้ำมนต์ในการประกอบพิธี
- 10. ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์
- 11. ช่วยในการปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน
- 12. ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
- 13. ช่วยในการบำบัดอาการของโรคเบาหวาน
- 14. ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาอักเสบ
- 15. น้ำต้มเปลือกทับทิมช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้
- 16. ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ ด้วยการช่วยเสริมสุขภาพหัวใจให้ดียิ่งขึ้น
- 17. ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
- 18. ช่วยบำรุงสุขภาพฟันให้แข็งแรง
- 19. ช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
- 20. ช่วยลดความดันโลหิตสูง
- 21. ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด
- 22. ช่วยในการฟอกไตและท่อปัสสาวะ
- 23. ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง
- 24. มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
- 25. ช่วยแก้อาการระดูขาว ตกเลือด
- 26. ช่วยบำรุงสุขภาพตับให้แข็งแรง
- 27. มีส่วนช่วยบำรุงและต่อต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
- 28. เปลือกทับทิมสามารถรักษาโรคท้องเดินและโรคบิดได้ เพราะมีสารในกลุ่มแทนนินอยู่ในปริมาณมาก
- 29. เปลือกทับทิมมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ
- 30. เปลือกผลช่วยรักษาแผลหิด กลากเกลื้อน
- 31. เปลือกของทับทิมช่วยต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
- 32. ยาต้มจากเปลือกผลช่วยรักษาอาการอุจจาระร่วงได้ โดยช่วยลดจำนวนครั้งในการขับถ่ายและทำให้ระยะเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกนานขึ้น
- 33. เปลือกต้นและเปลือกรากของทับทิมสามารถใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืดและพยาธิตัวกลมได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำเปลือกของรากและต้นที่ยังสด ๆ ประมาณครึ่งกำมือ เติมกานพลูลงไปเล็กน้อยเพื่อแต่งรส นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือถ้วยครึ่ง แล้วนำมารับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจึงรับประทานยาถ่าย เช่น ดีเกลืออีก 2 ช้อนโต๊ะตามไปอีกครั้งหนึ่ง
- 34. ดอกทับทิมใช้ห้ามเลือดได้ ด้วยการนำดอกแห้งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาทาหรือโรยใส่บริเวณบาดแผล
- 35. ดอกทับทิมช่วยแก้อาการหูชั้นในอักเสบ
- 36. ใบของทับทิมสามารถนำมาอมกลั้วคอหรือทำเป็นยาล้างตาก็ได้
- 37. ช่วยลดปัญหาผมร่วง ด้วยการนำยาพอกที่ได้จากใบ แล้วนำมาพอกหนังศีรษะ
- 38. ชาวอินเดียนำน้ำคั้นจากผลทับทิมและดอกของทับทิมมาปรุงเป็นยาธาตุ สมานลำไส้ บำรุงหัวใจ
- 39. ทับทิมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด โดยช่วยให้เซลล์มะเร็งไม่เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นต้น
- 40. ช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
ประโยชน์
- 1. ใบ สามารถทำน้ำยาบ้วนปาก หรือล้างตาได้ ยาพอกที่ทำจากใบสามารถช่วยบรรเทาอาการผมร่วงได้อย่างดี
- 2. เปลือก มีฤทธิ์ฝาดสมาน ช่วยสมานแผล ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของเรา ใช้รักษาแผลหิด กากเกลื้อน และมีสรรพคุณเกี่ยวกับการรักษาโรคในทางเดินอาหาร เช่น รักษาอาการท้องร่วงได้
- 3. เปลือกของลำต้น และราก สามารถนำมาทำเป็นยาถ่ายพยาธิได้อีกด้วย โดยนำมาผสมกับกานพลู และอาจใส่ดีเกลือต้มกับน้ำประมาณสามถ้วย มีสรรพคุณในการถ่ายพยาธิ
- 4. ดอก มีสรรพคุณในการสมานแผล และบรรเทาอาการอักเสบของหูชั้นใน
คำแนะนำ
- 1. เปลือกทับทิมที่มีสาร gallotannin ในปริมาณความเข้มข้นสูงจะมีพิษต่อตับ
- 2. การให้สารสกัดจากเปลือกทับทิม ขนาด 0.4 มล./วัน แก่นกกระจอก สามารถทำให้นกกระจอกตายได้
- 3. การให้สารสกัดจากต้นทับทิมด้วยการฉีดเข้าท้องหนูทดลอง ขนาด 0.25 กรัม/น้ำหนักกิโลกรัม สามารถทำให้หนูทดลองตายเกินครึ่งหนึ่ง
ลิงค์ข้อมูลเพิ่มเติม
>>> ทับทิม <<<




แหล่งที่มาของภาพ
https://medthai.com/images/2013/07/Pomegranate-1.jpg
https://puechkaset.com/wp-content/uploads/2016/02/tubtim1.jpg
http://tmpcd.fda.moph.go.th/uploads/images/pom4.jpg
https://puechkaset.com/wp-content/uploads/2016/02/tumtim2.jpg
https://puechkaset.com/wp-content/uploads/2016/02/ลูกทับทิม.jpg