ดูโค้ดสำหรับ มะละกอ
←
มะละกอ
ข้ามไป:
การนำทาง
,
ค้นหา
คุณไม่มีสิทธิแก้ไขหน้านี้ ด้วยเหตุต่อไปนี้:
ปฏิบัติการที่คุณขอนี้สงวนไว้เฉพาะผู้ใช้ในกลุ่ม:
ผู้ใช้
หน้านี้ถูกล็อกเพื่อป้องกันการแก้ไขหรือปฏิบัติการอื่น
คุณสามารถดูและคัดลอกโค้ดของหน้านี้:
[[ไฟล์:malako.png|right]] '''วงศ์''' : CARICACEAE <br> '''ชื่อวิทยาศาสตร์''' : ''Carica papaya L.'' <br> '''ชื่อสามัญ''' : Papaya <br> '''ชื่อพื้นเมืองหรือชื่ออื่น ๆ''' : มะก้วยเทศ, หมักหุ่ง, ลอกอ, กล้วยลา, แตงต้น <br><br> '''ลักษณะทางพฤกษศาสตร์'''<br> '''ต้น''' : ม้ล้มลุกอายุหลายปีขนาดใหญ่ อายุหลายปี สูง 2 - 8 ม. ลำต้นตั้งตรงมักไม่แตกกิ่ง ไม่มีแก่น ต้นอวบน้ำ มีรอยแผลเป็นของก้านใบที่หลุดร่วงไป มีน้ำยางสีขาวทั่วลำต้น <br> '''ใบ''' : ใบเรียงสลับรอบต้นบริเวณยอด ใบเดี่ยว รูปฝ่ามือกว้าง ยาว 25 - 60 ซม. โคนใบเว้า ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเว้าเป็นแฉกลึก 7 - 11 แฉก และจักฟันเลื่อย ก้านใบยาว 25 - 90 ซม. เป็นท่อกลวงยาว <br> '''ดอก''' : ดอกช่อสีขาวนวล มีกลิ่นหอม ออกที่ซอกใบ มีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและดอกแยกเพศ ดอกเพศผู้ออกเป็นช่อ ก้านช่อดอกยาว กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว 1.5 - 2.5 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เมื่อบานเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 - 2.5 ซม. เกสรเพศผู้มี 10 อัน ดอกเพศเมียและดอกสมบูรณ์เพศออกเดี่ยวหรือ 2 - 3 ดอก กลีบดอก 5 กลีบ ดอกมีขนาดใหญ่กว่าดอกเพศผู้ <br> '''ผล''' : เป็นผลสดรูปยาวรี ปลายแหลม ผลดิบมีเนื้อสีขาวอมเขียว ผลสุกมีเนื้อสีแดงส้ม เนื้อหนาอ่อนนุ่ม รสหวาน มีเมล็ดมาก รูปไข่สีน้ำตาลดำ ผิวขรุขระ มีถุงเมือกหุ้ม <br> '''การขยายพันธุ์''' : สามารถปฏิบัติได้หลายวิธี ทั้งแบบใช้เพศ ได้แก่ การเพาะเมล็ด และแบบไม่ใช้เพศ ได้แก่ การปักชำ การติดตา การตอนกิ่ง และการเพาะเนื้อเยื่อ แต่เกษตรกรผู้ปลูกมะละกอส่วนใหญ่นิยมใช้วิธีการขยายพันธุ์แบบใช้เพศในการปลูกมะละกอเพื่อการค้า เนื่องจากทำได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับผลผลิตที่จะได้รับ ส่วนขยายพันธุ์แบบไม่ใช้เพศมักจะทำกันในกรณีที่ต้องการรักษาพันธุ์ดีเอาไว้ เนื่องจากการขยายพันธุ์แบบนี้จะทำให้มะละกอไม่มีการกลายพันธุ์ และเพื่อเปลี่ยนยอดมะละกอที่มีดอกตัวผู้มีจำนวนมากเกินไป ให้เป็นต้นตัวเมียหรือต้นสมบูรณ์เพศ <br> <br> '''สรรพคุณ''' <br> :::1. มีส่วนช่วยกระตุ้นให้มารดามีน้ำนมมากขึ้น :::2. มะละกอมีส่วนช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง :::3. มะละกอมีเอนไซม์ที่เป็นยาช่วยย่อยอาหาร :::4. ช่วยป้องกันลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟันได้ :::5. ช่วยรักษาอาการขัดเบา ด้วยการใช้รากสดประมาณ 1 กำมือ รากแห้งอีกครึ่งกำมือ หั่นแล้วนำมาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำมาดื่มวันละ 3 ครั้งก่อนมื้ออาหาร :::6. เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้อาการท้องผูก ด้วยการกินเนื้อมะละกอสุก :::7. ช่วยในการย่อยอาหาร :::8. ใช้ฆ่าพยาธิ ด้วยการใช้ยางจากผลดิบซึ่งเป็นยาช่วยย่อยโปรตีน :::9. ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา จากรากมะละกอ :::10. ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ :::11. ช่วยรักษาอาการเท้าบวม ด้วยการนำใบมะละกอสด ๆ มาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับเหล้าขาว นำมาพอกบริเวณนั้น ๆ :::12. ช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอก ด้วยใช้รากมะละกอนำมาตำให้แหลกแล้วผสมกับเหล้าขาว นำมาทาบริเวณนั้น ๆ :::13. ใช้รักษาอาการผดผื่นคันขึ้นตามลำตัว ด้วยใช้ใบมะละกอ 1 ใบ เกลือ 1 ช้อนชา น้ำมะนาวจำนวน 2 ผล นำมาตำรวมกันให้ละเอียดแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นผดผื่น :::14. ช่วยรักษาโรคกลาก เกลื้อน เท้าเปื่อย ด้วยการใช้ยางมะละกอดิบมาทาวันละ 3 ครั้ง จะสามารถช่วยฆ่าเชื้อราได้ :::15. ช่วยรักษาอาการคันอันเกิดมาจากพิษของหอยคัน ด้วยการใช้ยางมะละกอดิบ ๆ นำมาทาทั้งเช้าและเย็น :::16. หากโดนเสี้ยนหรือหนามตำหรือหนามหักคาเนื้อใน หากนำยางมะละกอดิบมาทา หนามจะหลุดออกมา แต่ให้บ่งเปิดปากแผลก่อน :::17. หากโดนตะปูตำเท้าเป็นแผล ให้นำผิวของลูกมะละกอดิบมาตำแล้วนำมาพอกแผล โดยเปลี่ยนใหม่วันละ 2 ครั้ง :::18. ช่วยรักษาแผลพุพอง อักเสบ ด้วยการใช้ใบมะละกอที่แห้งกรอบนำมาบดให้เป็นผง นำไปผสมกับน้ำกะทิผสมให้พอเหนียว แล้วนำมาทาแผลวันละ 3 ครั้ง :::19. ใช้รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการใช้เนื้อมะละกอดิบ ๆ ต้มจนเปื่อย นำมาตำแล้วพอกบริเวณบาดแผล :::20. ใช้รักษาอาการปวดหลังปวดข้อต่าง ๆ ด้วยการรับประทานมะละกอสุกอย่างต่อเนื่องจะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ :::21. ช่วยรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อหรือกล้ามเนื้อไม่มีแรง ด้วยการใช้รากมะละกอตัวผู้นำมาแช่เหล้าขาวทิ้งไว้ 7 วัน และกรองเอาน้ำมาทาบริเวณที่กล้ามเนื้อหรือบริเวณที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง :::22. ช่วยลดอาการปวดบวม ด้วยการนำใบมะละกอสด ๆ ไปย่างไฟหรือใช้น้ำร้อนลวก แล้วนำมาประคบบริเวณที่มีอาการ หรือนำมาตำให้พอพยาบแล้วห่อด้วยผ้าขาวบาง นำมาทำเป็นลูกประคบก็ใช้ได้เหมือนกัน :::23. ช่วยป้องกันการเกิดอาการตับโตหรือโรคที่เกี่ยวกับตับ :::24. เป็นยาช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง :::25. มีงานวิจัยมะละกอพบว่าการรับประทานมะละกอเป็นประจำมีส่วนช่วยในการต่อต้านโรคมะเร็งได้ <br><br> '''ประโยชน์''' <br> :::1. มะละกอมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิด ซึ่งช่วยให้สุขภาพของคุณแข็งแรง :::2. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ :::3. ช่วยในการชะลอวัย ลดเลือน และป้องกันการเกิดริ้วรอยต่าง ๆ :::4. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น :::5. สามารถนำมาใช้เป็นทรีตเมนต์ทำหน้าให้หน้าใสได้อีกด้วย ด้วยการนำมะละกอสุกผสมกับน้ำผึ้งและนมสด แล้วนำมาปั่นให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำมาทาผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วค่อยล้างออก :::6. ใช้นำมารับประทานเป็นผลไม้หรือของว่าง :::7. ใช้นำมาปรุงเป็นอาหาร เช่น แกงส้ม ส้มตำ เป็นต้น :::8. สามารถนำมะละกอไปใช้หมักให้เนื้อนุ่มได้อีกด้วย เพราะมีเอนไซม์ที่ชื่อว่า Papain ซึ่งเป็นส่วนประกอบของผงหมักสำเร็จรูปที่เราเห็นขายกันอยู่ตามท้องตลาดนั่นเอง :::9. นำมาแปรรูป การแปรรูปมะละกอ เช่น มะละกอแช่อิ่ม มะละกอแผ่น แยมมะละกอ มะละกอเชื่อม ซอสมะละกอ เยลลี่มะละกอ มะละกอแช่อิ่ม มะละกอสามรส มะละกอดอง มะละกอผง เป็นต้น <br><br> '''คำแนะนำ''' <br> :::1. ควรเลือกมะละกอที่มีคุณภาพ มีผิวสีเหลืองบางส่วน หรือเหลืองทั้งหมด และผลของมะละกอตรงบริเวณขั้วที่ติดกับลำต้นไม่ควรนิ่มเหลว :::2. ไม่ควรรับประทานมะละกอที่ดิบจนเกินไป ซึ่งผลที่ดิบเกินไปจะมีเปลือกนอกสีเขียวและมีเนื้อที่แข็งมาก :::3. ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะเสี่ยงต่อการทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ เช่น ผิวเหลือง เบื่ออาหาร เซื่องซึม นอนไม่หลับ :::4. หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังสัมผัสกับยางมะละกอ เพราะอาจเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาต่อผิวหนังได้ :::5. สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะละกอเพราะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า สารเคมีพาเพนที่อยู่ในมะละกออาจเป็นพิษต่อทารกน้อยในครรภ์ได้ รวมทั้งอาจทำให้เกิดภาวะพิการแต่กำเนิด ดังนั้นหากคุณแม่ตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อปลอดภัยทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ :::6. สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานควรระมัดระวังในการรับประทานมะละกอ เพราะอาจส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดได้ ดังนั้นก่อนรับประทานมะละกอ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเช็คและควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม :::7. ผู้ที่มีอาการแพ้สารพาเพน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะละกอ เนื่องจากในมะละกอจะมีสารชนิดนี้อยู่ :::8. ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดไม่ควรรับประทานมะละกอ โดยเฉพาะมะละกอที่ผ่านการดอง อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงได้ ซึ่งนั่นอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในระหว่างและหลังการผ่าตัด ทั้งนี้ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดรับประทานมะละกออย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ---- <center>[[ไฟล์:malako1.png]] [[ไฟล์:malako2.png]] [[ไฟล์:malako3.png]] [[ไฟล์:malako4.png]] </center> ---- '''แหล่งที่มาของภาพ''' <br> https://img.kapook.com/u/2018/wanchalerm/Health_01_61/py1.jpg<br> https://www.sentangsedtee.com/wp-content/uploads/2016/10/11-2.png<br> https://4.bp.blogspot.com/-JbEaEih9u3Y/V9F1nzLo4JI/AAAAAAAAAek/tKf2wONthH83mhRM_N0jnZlT0PXWIni2QCLcB/s640/01.jpg<br> http://www.rsusite.com/thaipharmacy/wp-content/uploads/2016/12/caricaceae3.jpg<br> https://www.chiangmainews.co.th/page/wp-content/uploads/2016/08/B2-20.jpg<br>
กลับไป
มะละกอ
รายการเลือกการนำทาง
เครื่องมือส่วนตัว
สร้างบัญชี
ล็อกอิน
เนมสเปซ
หน้า
อภิปราย
สิ่งที่แตกต่าง
ดู
อ่าน
ดูโค้ด
ดูประวัติ
เพิ่มเติม
ค้นหา
การนำทาง
หน้าหลัก
พื้นที่ศึกษา
กระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบแดง
กระชาย
กระโดน
กระถิน
กระทกรก
กระเทียม
กล้วยน้ำว้า
กะเพรา
กุยช่าย
ขมิ้นชัน
ข่า
ข้าวกล้อง
ข้าวโพดอ่อน
ขี้เหล็ก
ขึ้นฉ่าย
คำฝอย
แคบ้าน
งา
จักรนารายณ์
เจตมูลเพลิงแดง
ชะพลู
ชะมวง
ชะเอมเทศ
ชา
เดือย
ตะไคร้
ตำลึง
ถั่วพู
ถั่วเหลือง
ทับทิม
ทานตะวัน
เทียนเกล็ดหอย
น้ำเต้า
ใบบัวบก
บอระเพ็ด
บุก
ปลาไหลเผือก
ปัญจขันธ์
ผักกระเฉด
ผักกระโฉม
ผักกูด
ผักขม
ผักชีลาว
ผักเชียงดา
ผักติ้ว
ผักบุ้ง
ผักปลัง
ผักไผ่
ผักหวาน
ผักหวานป่า
ผักเหลียง
ผักฮ้วน
พริก
พริกไทย
พลูคาว
แพงพวยฝรั่ง
ฟักข้าว
ฟักแม้ว
ฟ้าทะลายโจร
มะกรูด
มะกล่ำตาหนู
มะกอก
มะเกี๋ยง
มะขามป้อม
มะเขือเปราะ
มะเดื่อ
มะนาว
มะม่วงหิมพานต์
มะเม่า
มะระ
มะระขี้นก
มะรุม
มะละกอ
มังคุด
แมงลัก
ยอ
ย่านางแดง
รางจืด
ลูกซัด
ลูกสำรอง
ว่านหางจระเข้
ส้มแขก
สมอไทย
สะเดา
สะตอ
เสาวรส
โสน
หญ้าปักกิ่ง
หญ้าหวาน
หม่อน
หอมแดง
หอมใหญ่
โหระพา
อบเชย
อัญชัน
อินทนิลน้ำ
เครื่องมือ
หน้าที่ลิงก์มา
การปรับปรุงที่เกี่ยวโยง
หน้าพิเศษ
สารสนเทศหน้า